9/06/2566

[Skyrim] ว่าด้วยเรื่องการเป็น Thane (ขุนนาง) ของเมืองต่างๆ

 
เอนทรี่นี้เป็นส่วนหนึ่งของเพจ
 
 
หากจะเอาไปลงที่อื่น กรุณาใส่ credit นะคะ ถึงเราจะทำด้วยใจรักก็เหอะ...
 
 
ว่าด้วยเรื่องการเป็น Thane (ขุนนาง) ของเมืองต่างๆ

Thane คือ ตำแหน่งขุนนางผู้มีเกียรติ์สูงสุดของเมืองแต่ละเมืองในสกายริม การที่ Jarl จะมอบหมายให้ใครสักคนเป็น Thane ได้นั้น ย่อมหมายถึงบุคคลนั้นมีบุญคุณต่อเมืองนั้นๆอย่างมหาศาล โดยทั้ง Jarl และชาวเมืองต่างเห็นพ้องต้องกันว่า คนผู้นี้สมควรแล้วที่จะเป็น Thane ของเมือง

 

ข้อดีของการเป็น Thane

1. สามารถซื้อบ้านในเมืองนั้นๆได้ ถ้าเป็นเมืองใหญ่อย่าง Whiterun / Windhelm / Solitude / Riften / Markarth

2. สามารถใช้อำนาจขุนนาง เบี้ยวการจ่ายค่าปรับได้ในกรณีที่ทำผิดกฎหมาย แต่ใช้บ่อยไม่ได้

3. จะได้คนรับใช้ส่วนตัวมา 1 คนต่อเมืองใหญ่ 1 เมือง ซึ่งเขาจะคอยเฝ้าบ้านเราให้

 

** คนรับใช้ที่พวกเรารู้จักกันดีที่สุดก็คือ Lydia ซึ่งเขาจะคอยตามเราหลังจบเควส Dragon Rising เพราะเราได้เป็น Thane ของ Whiterun ตอนจบเควสค่ะ

** Whiterun สามารถเป็น Thane ได้โดยไม่ต้องซื้อบ้าน แต่ถ้าหาเรื่องใส่ตัวก็ต้องซื้อก่อนอยู่ดี (เล่นเนื้อเรื่องสงครามจน Jarl Balgruuf โดนเตะทิ้ง)

** Windhelm ถ้าทำเนื้อเรื่องสงครามระหว่าง Stormcloak กับ Imperial เสร็จถึงระดับนึงถึงจะซื้อบ้านได้ และต้องทำเนื้อเรื่องสงครามจนจบเลย ถึงจะสามารถเป็น Thane ได้

 

 

เงื่อนไขการเป็น Thane ของแต่ละเมือง

ถ้าเราเล่นเนื้อเรื่องหลักจนจบ Dragon Rising เราจะได้เป็น Thane of Whiterun (ขุนนางของเมือง Whiterun) โดยอัตโนมัติ แต่เมืองอื่นนี่ เรื่องมาก และ มากเรื่องค่ะ... (บางเมืองเจ้าของบล็อกอยากเอาบาทาลูบหน้ามันงามๆเลยทีเดียว...)


หลักๆ การจะเป็น Thane จะต้องทำเควสตีสนิท Jarl ของแต่ละเมืองก่อน ซึ่งแตกต่างไปตามแต่ละเมืองดังนี้ค่ะ

 

Whiterun
(ในกรณีที่เราเล่นเนื้อเรื่องสงคราม ฝ่าย Stormcloak และทำให้ Jarl Balgruuf โดนเตะออก)

ให้ไปคุยกับ Vignar Grey-Mane ที่ขึ้นเป็น Jarl แทนค่ะ เขาจะให้เราทำตามเงื่อนไขข้างล่างเลย

 

 

Windhelm
[ WARNING!! BUG FOUND!!! ]

ไอ้ตัวแดงข้างบนนี่ไม่ได้ล้อเล่นนะคะ... บั๊กตัวแสบเลยด้วย...

 

เงื่อนไข 1: ต้องทำเควสสืบคดีฆาตกรรม Blood on the Ice ก่อน

บทสรุปเึควสคดีฆาตกรรม Blood on the Ice

เควสสืบคดีฆาตกรรมนี้ จะรับได้เมื่อเดินเข้าเมือง Windhelm อย่างน้อย 4 ครั้ง แล้วจะมีเหตุการณ์ คนโดนฆ่า ให้วิ่งไปดูตรงสุสาน จะเจอ Susanna the Wicked เป็นศพกองอยู่บนสุสาน ให้คุยกับยามแถวนั้น แล้วไปคุยกับ Jorleif ในวัง Palace of the King

พอคุยกับ Jorleif เขาจะให้เราช่วยสืบคดี แล้วจะให้เราไปคุยกับพยานทั้งหลาย ให้เราไปคุยกับ Helgrid ใน Hall of the Dead จากนั้นเดินไปที่สุสาน มองหารอยเลือด แล้วเดินตามรอยเลือดไป รอยจะไปสิ้นสุดที่หน้าคฤหาสน์ Hjerim

ประตูคฤหาสน์จะล็อคอยู่ จะงัดประตูเข้า หรือ จะไปถามยามก็ได้ ยามเขาจะบอกให้ไปคุยกับ Tova Shatter-Shield ซึ่งพอไปคุยเขาจะให้กุญแจคฤหาสน์มา พอเข้าไปแล้วให้ตามรอยเลือดไปจากนั้นให้รื้อหาข้อมูลให้ทั่ว เราจะเจอใบปลิว Beware the Butcher!, Butcher Journal #1, Butcher Journal #2, และ Strange Amulet พอเจอเครื่องรางนี่แล้ว ให้ไปคุยกับยาม เขาจะแนะให้ไปหา Calixto ที่ The House of Curiousity หรือ Viola Giordano (อย่าลืมหยิบใบปลิว Beware the Butcher! ไปด้วย ไม่งั้นเจ๊ Viola จะไม่คุยกับเรา)

- พอไปคุยกับ Calixto เขาจะนำเสนอทัวร์พิพิธภัณฑ์ของเขา ให้ตอบตกลง แล้วพอเรายื่นเครื่องรางให้ดู เขาจะพูดนิดหน่อย(ว่ามันคืออะไร) แล้วขอซื้อเครื่องรางในราคา 500 (ขายๆไปเหอะ เครื่องรางติดบั๊ก)

- พอไปคุยกับ Viola ถ้าเราหยิบ Butcher's Journal มาด้วย Viola จะบอกให้เราไปหา Wuunferth

 

ตอนนี้เนื้อเรื่องเควสจะแยกอีก ว่าเราจะไปคุยกับ Wuunferth หรือ Jorleif (ระวังด้วย เพราะจะมีลูกศรชี้ไปหา Jorlief อย่างเดียว ใครขี้เกียจรอก็ไปคุยกะ Wuunferth แล้วห้ามคุยกับ Jorlief จนกว่าจะจบเควส)

- ถ้าไปหา Wuunferth เขาจะโวยวาย แต่จะบอกว่าเขาเองก็สืบคดีอยู่ แล้วเขาจะขอให้เราไปคอยเฝ้าพื้นที่ Stone Quater ตอนกลางคืน ตอนนี้ให้เมินลูกศรที่ชี้ไปหา Jorleif แล้วไปดักที่ Stone Quarters

ถ้าไปหา Jorleif เราจะบอกว่า Wuunferth คือตัวการ แล้ว Wuunferth ก็จะโดนจับ แล้วเควสจะจบ(ชั่วคราว) แต่หลังจากนี้ 3 วัน (ให้ไปเมืองอื่น) พอกลับมาจะเจอเหตุการณ์ฆาตกรรมอีก แล้วเราจะโดนยามโวย เควสจะเด้งกลับมาอีกครั้ง แล้วจะต้องไปคุยกับ Wuunferth ที่โดนขังอยู่ พอไปคุย Wuunferth จะกัดเราว่าสืบได้ห่วย แล้วจะบอกให้เราไปดักที่ Stone Quarters

 

ไม่ว่าเลือกทางไหน ให้ไปดักที่ Stone Quaters แต่พอเวลาเลยตี 2 เราจะได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ ให้วิ่งไปที่ลานขายของให้เร็วที่สุด เพราะเหยื่อจะอยู่หรือจะตายก็ขึ้นกับตอนนี้ พอวิ่งไปจะเจอนาย Calixto กำลังจะเชือดเหยื่อรายต่อไป ให้จัดการซะ พอยามเดินมาเขาจะให้เราไปหา Jorleif

ถ้าช่วยเหยื่อไม่ทัน นาย Calixto จะวิ่งหนีไปที่ Hjerim พอเราตามไปมันจะมาสู้กับเรา ให้จัดการซะ แล้วหยิบกุญแจมันมา จากนั้นลองไปที่บ้านมันดู จะเจอหีบที่ไขได้แล้วข้างในจะมีสาเหตุว่าทำไมนายนี่ถึงมาเป็นฆาตกร แล้วก็กลับไปคุยกับ Jorleif เพื่อจบเควส

** เควสนี้ต้องทำก่อนที่จะจบเควสสงคราม ไม่งั้นจะไม่มีการฆาตกรรม ทำให้เควสนี้ไม่มีวันทำได้เลย

เงื่อนไข 2: เล่นเควสสงคราม Stormcloak VS Imperial จนจบ

หลังจบเควส ให้ไปคุยกับ Jarl ของ Windhelm ขณะนั้น เขาจะพูดเรื่องการเป็น Thane

 

** เพิ่มเติม ** เจ้าของบล็อกคอนเฟิร์มแล้วว่าไม่ต้องกลางคืนก็เจอคดีฆาตกรรมได้ และไม่จำเป็นต้องเกิดในครั้งที่ 4 ที่เข้าเมือง (เดินเข้าออกอยู่ 10 กว่ารอบ ด้วยตัวละครใหม่) แต่เนื่องจากเราไม่รู้มันจะเกิดเมื่อไหร่ ขอให้วิ่งไปสุสานทุกครั้งที่เข้าเมืองนะคะ (มันจะเกิดในมุมอับ บางทีวิ่งลงบันไดไปเพราะมองไม่เห็น แต่โดนยามเรียกถึงได้รู้ว่าเกิดฆาตกรรมแล้ว)

** เพิ่มเติม ** คุณ Horrorday บอกเจ้าของบล็อกมาว่า ถ้าซื้อบ้านได้สำเร็จ จะยังสามารถทำเควส Blood on the Ice ได้แม้จะจบเนื้อเรื่อง Stormcloak หรือ Imperial แล้ว... โดยหลังซื้อบ้านให้เข้าไปหยิบพวกเอกสารหรือของอื่นๆ แล้วจะทำเควสได้ แต่จะต้องยอมจับผิดตัวเพื่อให้ Wuunferth บอกเรื่องตัวจริงก่อน (ตอนนี้คุณ Horrorday เป็น Thane ไปแล้ว แต่เจ้าของบล็อกทดสอบกับตัวละครเก่าไม่ได้ผลอยู่ ถ้าสำเร็จจะมาอัพเดทอีกครั้งค่ะ **

 

** เพิ่มเติม ** แต่ถ้าอยากเป็น Thane ตัวสั่น แต่นาย Jorlief ไม่ยอมขายบ้านซะที ก็ใส่ Console Command ตามนี้นะคะ **

setstage a7b33 10

completequest ms11

completequest ms11b

โค้ดแรกคือ เราจะได้บ้านมา(ซื้อบ้านแล้ว) โค้ดบรรทัดที่ 2-3 คือ ทำเควส Blood on the Ice จบทั้ง 2 สเตจ และเราจะสามารถอัพเกรดบ้านได้ค่ะ

** เพิ่มเติม ** คอนเฟิร์มอีกเรื่องนะคะ ใครมือบอน ขโมย Hjerim Key จาก Tova Shatter-Shield หรือ ทำเควสของ Dark Brotherhood ฆ่า Nilsine Shatter-Shield ไป มีสิทธิ์เจอบั๊ก เควสไม่ยอมโผล่ได้ค่ะ **

 

 

Solitude

ให้ไปที่วัง Blue Palace ในเมือง Solitude จากนั้นคุยกับ Falk Firebeard รับเควส The Man who Cried Wolf มา จัดการทำให้เสร็จซะ

บทสรุปเควส The Man who Cried Wolf

หลังรับเควสให้เดินทางไปที่ Wolfskull Cave ทางตะวันตกของเมือง Solitude แล้วตะลุยดันเจี้ยนกวาดล้างให้หมดซะ ศัตรูในนี้จะเป็นนักเวทย์ ให้ฆ่าให้หมด พอไปตามทางปีนหอคอยขึ้นไปฆ่า Ritual Master เสร็จก็จะไม่มีศัตรูเหลือ ให้เดินไปสับสวิทช์ให้สะพานลงมาแล้วเดินไปเก็บหีบสมบัติแล้วออกจากดันเจี้ยน กลับไปรายงานกับ Falk Firebeard

จากนั้นให้ คุยกับ Jarl Elisif the Fair เขาจะขอให้เราช่วยเอาแตรของสามีเขาไปวางที่แท่นบูชาของเทพ Talos ให้เปิดมาร์กเกอร์ เดินทางเอาแตรไปวาง พอกลับมาคุยกับ Elisif เขาจะพูดเรื่องเป็น Thane

 

 

Riften

ให้ไปที่ท่าเรือ มองหามนุษย์กิ้งก่าชื่อ Wujeeta คุยกับเขาเขาจะขอ Healing Ption เรา 1 ขวด ให้เอาให้เขาไป แล้วถามเขาเรื่องคนขาย Skooma (เลือกข้อ "Where do you get your skooma?") อาจต้องกล่อมเขาสักหน่อย เขาจะบอกเรามา ตอนนี้ให้เราไปที่วัง Mistveil Keep แล้วคุยกับ Jarl เลือก "I've discovered a skooma deal in Riften." เขาจะขอให้เราไปกวาดล้าง ให้ตอบตกลง แล้วเดินทางไปที่ Riften Warehouse จัดการศัตรูที่ขวางทางแล้วเดินลงไปชั้นใต้ดิน แล้วสำรวจ จะมีห้องนึงที่เปิดได้ด้วย Sarthis's Key ให้เข้าไปแล้วสำรวจ Sarthis's Satchel อ่านโน้ต Shipment's Ready ที่อยู่ในนั้น แล้วกลับไปหา Jarl เลือก "Sarthis Idren has been taken care of." แล้วเขาจะขอให้เราช่วยถอนรากถอนโคนพวกที่เหลือที่ Cragslane Cavern ให้เดินทางไปที่นั่น (อยู่ทางเหนือของ Riften เลยหมู่บ้าน Shor's Stone ไป) แล้วจัดการล้างบางพวกในถ้ำให้เรียบ เสร็จแล้วกลับไปรายงาน Jarl จากนั้นจะมีหัวข้อเรื่องเป็น Thane ให้เลือก

** ถ้าเกิด Jarl ยังไม่มีหัวข้อเรื่อง Thane ให้คุย ให้ทำเควสช่วยชาวบ้านทะลุ 5 เควสไปเลยค่ะ เพราะถ้า Jarl ยังไม่คิดว่าเราเป็นคนดังพอ เขาจะไม่พูดเรื่องนี้

 

 

Markarth

Markarth เป็นเมืองที่ เป็น Thane ได้ 2 วิธีค่ะ

1. เล่นแบบธรรมดา ให้ไปคุยกับ Raerek แล้วเลือก "I'm looking for work. Got any leads?" เพื่อรับเควสกวาดล้างพวก Forsworn จากนั้นก็ไปกวาดล้างตามเควส แล้วกลับไปคุยกับ Raerek เพื่อเอาค่าตอบแทน จากนั้นไปคุยกับ Jarl Igmund แล้วเลือก "Do you have any more work for me?" เขาจะใช้เราไปทำงานส่วนตัว คือ ให้ไปเอาโล่ของพ่อเขาที่ตายในการต่อสู้กับพวก Forsworn มาให้เขา ให้เดินทางไปที่ที่กำหนดเพราะบางครั้งมันจะสุ่มสถานที่ ให้ฆ่าศัตรูให้เรียบแล้วเปิดหีบหยิบโล่ จากนั้นกลับไปคุยกับ Igmund เขาจะอนุญาตให้เราซื้อบ้านในเมืองได้ และจะมีหัวข้อเรื่องการเป็น Thane ขึ้นมาให้คุย

2. เล่นแบบไม่ซื่อ ให้เล่นเควสสงครามระหว่าง Stormcloak กับ Imperial โดยเข้ากับฝ่าย Stormcloak หลังจาก Stormcloak เข้าครอง Markarth เมืองจะเปลี่ยน Jarl เป็น Thongvar Silver-Blood ซึ่งเราสามารถคุยเรื่อง Thane ได้เลย

 

Dawnstar
[ WARNING!! BUG FOUND!!! ]

ให้เดินทางไปที่โรงแรม Windpeak Inn ในเมือง Dawnstar จะเจอเหตุการณ์ที่พระชื่อ Erundur คุยกับคนอื่นในโรงแรมเรื่องฝันร้ายที่หลอกหลอนคนท้องถิ่น พอคุยกับเขา แล้วจะเริ่มเควส Waking Nightmare (1 ใน Daedric Quest) ให้ทำเควสนี้ให้จบ จากนั้น Jarl ของเมือง Dawnstar จะมีตัวเลือกเรื่องเป็น Thane ให้

บทสรุปเควส Waking Nightmare

หลังคุยกับ Erundur เขาจะเดินนำเราไปที่วิหาร Nightcaller Temple ให้คุยกับเขาก่อนเข้าวิหาร แล้วเดินตามเข้าไป จากนั้นให้ตาม Erundur ไปเรื่อยๆ แล้วเราจะพบว่าทางไปต่อมันโดนสนามพลังขวางไว้ แล้วเราจะต้องไปห้องสมุดซึ่งอยู่อีกทางเพื่อหาเบาะแสไปต่อ เดินตาม Erundur ไป แล้วคุยกับเขา เขาจะให้เราช่วยหาหนังสือ "The Dreamstride" (มันจะวางหลบมุมอยู่บนชั้น 2) ให้หยิบหนังสือมาให้เขา แล้วเขาจะเดินนำไปที่ห้องทดลอง ซึ่งเราจะต้องหาขวดยา Vaermina's Torpor (วางอยู่บนชั้น เป็นขวดสีดำๆ ถ้าเปิดมาร์กเกอร์มันจะชี้ไปที่ขวดเลย) ให้หยิบยามาให้ Erundur แล้วเขาจะบอกให้เรากินยาซะ จากนั้นจะเป็นคัทซีน แล้วเราจะต้องเล่นเป็นนักบวชในวิหารนี้ ให้เดินไปตามทางไปสับสวิทช์ แล้วเราจะกลับมาเป็นตัวเรา และยืนอยู่หน้าสวิทช์ ให้สับสวิทช์เพื่อปิดม่านพลังซะ คุยกับ Erundur แล้วเราจะต้องไปต่อ ให้ตาม Erundur ไปจนถึงห้องในสุด หลังบทสนทนาสั้นๆ และ จัดการศัตรูแล้ว Erundur จะทำพิธีเพื่อลบล้างคำสาปของกะโหลก Skull of Corruption ซึ่งตอนนี้เราจะได้ยินเสียงของ Vaermina ในหัว แล้วเราจะเลือกได้ว่าจะฆ่า Erundur หรือไม่

-ถ้าฆ่า เราจะได้ Skull of Corruption มาใช้ (ถือเป็น 1 ใน Daedric Artifact ส่วนหนึ่งของ Achievement / Trophy "Oblivion Walker")

-ถ้าไม่ฆ่า Skull of Corruption จะหายไปตลอดกาล และ จะสามารถเอา Erundur มาเป็นผู้ติดตามได้

** บางครั้ง Skald จะไม่มีหัวข้อเรื่องเป็น Thane ให้คุย ให้เราเล่นเนื้อเรื่องหลักจนจบ Season Unending แล้ว Skald จะโดนเตะออก เปลี่ยนเป็น Brina แทน ซึ่ง Brina คุยได้ตามปกติค่ะ

 

 

Falkreath

ไปคุยกับตัว Jarl เอง เขาจะขอให้เราช่วยไปเอาเหล้ามาให้หน่อย พอเอามาให้ เขาจะพูดเรื่องเป็น Thane (ไอ้ขี้เหล้านี่!?)

 

 

Morthal

ต้องทำเควส Laid to Rest ก่อน Jarl ถึงจะมีหัวข้อเรื่องเป็น Thane ให้คุย

บทสรุปเควส Laid to Rest

ไปที่โรงแรม Moorside Inn ในเมือง Morthal หรือ คุยกับยามในเมือง Morthal ก็ได้ ถามเรื่องไฟไหม้  แล้วเขาจะให้เราไปหา Jarl พอไปคุยกับ Jarl เขาจะให้เราช่วยสืบคดีไฟไหม้ ให้เดินไปที่บ้านที่ไฟไหม้ จะเจอผีเด็กชื่อ Helgi คุยกับเขาแล้วเขาจะให้เราเล่นซ่อนหา ให้รอจนมืด แล้วเดินออกไปทางหลังบ้าน ขึ้นเนินไปทางตะวันตก จะเจอ Laelette the Vampire ให้ฆ่าซะ แล้วสำรวจโลงศพใกล้ๆ Helgi จะพูดกับเรา จากนั้นสามีของ Laelette ชื่อ Thonnir จะเดินมาคุยกับเรา คุยเสร็จเราจะต้องไปค้นบ้านของ Alva จะรอจนกลางวันแสกๆ แดดส่องหัว ให้ Hroggar ออกไปทำงานก่อน จากนั้นสะเดาะกลอนเข้าบ้าน Alva ก็ได้ (จะได้ไม่ต้องสู้กับ Hroggar) พอเข้าไปแล้วเดินลงชั้นใต้ดินเข้าไปใน Alva's Cellar ยัยตัวแสบจะลุกจากโลงมาสู้กับเรา ให้จัดการซะ แล้วหยิบ Alva's Journal ในโลงมาด้วย กลับไปคุยกับ Jarl เขาจะให้เราช่วยล้างรังแวมไพร์ให้หน่อย เดินออกมาจะเจอชาวบ้านมาชุมนุมกัน ไม่ต้องสน (เพราะชาวบ้านไม่ตามเข้าไปช่วยเราอยู่ดี ไม่ต้องรอ) วิ่งไปที่ Movarth's Lair ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง แล้วล้างบางรังแวมไพร์ซะ เดินกลับออกมาจะเจอ Helgi เขาจะบอกลา แล้วให้เรากลับไปคุยกับ Jarl เพื่อจบเควส Laid to Rest

** ใครอยากเป็นแวมไพร์ก็ยืนโดนตบไปเลยค่ะ แถวนี้แวมพ์เยอะมาก (ฮา)

 

 

Winterhold

ให้ไปคุยกับ Jarl เขาจะพูดถึงหมวกเกราะในตำนานแล้วจะขอให้เราไปเอามาให้จากดันเจี้ยน(สุ่ม) ให้ไปลุยดันเจี้ยนเอาหมวกมาให้ แล้วเขาจะพูดเรื่องเป็น Thane ค่ะ

** เควสนี้เป็นของ Jarl Korir เท่านั้นนะคะ ใครทำไม่ทันก่อนทำเควสที่เตะ Jarl Korir ออกจากตำแหน่ง เควสนี้จะคาอยู่ใน Misc. ของคุณตลอดไป และ ทำให้เควสอื่นๆหลายเควสบั๊กไปด้วยค่ะ

 

ซึ่งพอทำเควสนั้นๆจบ แล้วคุยกับตัว Jarl จะมีตัวเลือกว่า "My Jarl, is there anything else you need?" เขาจะให้เราไปทำเงื่อนไขต่อดังนี้ค่ะ

1. ซื้อบ้านในเมืองนั้นๆ (เมืองใหญ่เท่านั้น)

2. ช่วยเหลือประชาชน (ทำเควส) ในเมืองนั้นๆ ตามที่กำหนด (เมืองใหญ่ 5 เควส, เมืองเล็ก 3 เควส) โดยจะขึ้นเป็น Misc. Quest ว่า "Assist people of (ชื่อพื้นที่) ??/??"

 

พอทำจนครบให้กลับไปคุยกับ Jarl แล้วเขาจะแต่งตั้งเราเป็น Thane ค่ะ

 

ตำแหน่ง Thane ของแต่ละเมือง แตกต่างกันไปตามนี้ค่ะ

Whiterun - Thane of Whiterun

Windhelm - Thane of Eastmarch

Solitude - Thane of Haafingar

Riften - Thane of the Rift

Markarth - Thane of the Reach

Dawnstar - Thane of the Pale

Falkreath - Thane of Falkreath

Morthal - Thane of Hjaalmarch

Winterhold - Thane of Winterhold

 

อ้อ... เผื่อใครงง เราเป็น Thane ทุกเมืองในเวลาเดียวได้นะคะ (เจ้าของบล็อกเป็นอยู่)

 

ส่วนใครขี้ลืมว่าเราเป็น Thane เมืองนั้นอยู่ไหม ต้องทำใจที่เกมไม่มีบอกนะคะ (เพราะในเมืองใหญ่คงไม่มีใครขี้ลืมขนาดลืมว่าซื้อบ้านไว้เมืองไหนบ้าง) ส่วนเมืองเล็กๆนี่ ทดสอบด้วยการเซฟ แล้วจงใจทำผิดค่ะ มันจะมีตัวเลือกเบี้ยวค่าปรับให้ ถ้าเราเป็น Thane (จากนั้นก็โหลดเอา)

 

 

เอนทรี่ว่าด้วยการเป็น Thane จบเท่านี้  เอนทรี่ต่อไปยาวหน่อยนะคะ