11/08/2559

[Skyrim] Thieves Guild (บทสรุป พร้อมข้อมูลเควสย่อย)

เอนทรี่นี้เป็นส่วนหนึ่งของเพจ


หากจะเอาไปลงที่อื่น กรุณาใส่ credit นะคะ ถึงเราจะทำด้วยใจรักก็เหอะ...

Faction: Thieves Guild

ในท่อรังหนู ภายใต้เมือง Riften คือ ศูนย์รวมเหล่าขโมยและโจรฝีมือเยี่ยมจากทั่วสกายริม ในอดีตครั้งหนึ่ง ฐานลับใต้ท่อนี้เคยมีความรุ่งเรืองทางการค้าเทียบเท่าตลาดพลุกพล่านที่ตั้งอยู่เหนือมัน แม้ปัจจุบันจะไม่อาจเทียบในอดีตได้ แต่ในฐานนี้ ยังคงรวบรวมผู้คนที่ฝีมือฉกาจฉกรรจ์ด้านการโจรกรรมเอาไว้ และรอคอยวันที่จะกลับไปรุ่งเรืองดั่งในอดีตอย่างเงียบๆ

วิธีเข้าร่วม

ให้เดินไปที่กลางย่านขายของเมือง Riften ในตอนกลางวัน Brynjolf จะเป็นฝ่ายเดินมาทักเราเอง หลังจากคุยแล้วจะเป็นการเริ่มเควส A Chance Arrangement ซึ่งเป็นเควสแรกในเควสสายกิลด์โจร

แนะนำตัวละครใน Thieves Guild

Mercer Frey - หัวหน้ากิลด์คนปัจจุบัน
Brynjolf - สมาชิกรุ่นเก๋าของกิลด์ ดูเหมือนจะมีอำนาจเป็นรองแค่ Mercer
Delvin Mallory - สมาชิกของกิลด์ มีเส้นสายเยอะมาก และชอบของหายาก เป็นจ้าวแห่งทักษะ Sneak
Tonilia - สมาชิกของกิลด์ และเป็นคนคอยรับซื้อของโจรคนหลักของกิลด์
Vex - สมาชิกของกิลด์ เป็นจ้าวแห่งการสะเดาะกลอน
Cyntic Endell - สมาชิกของกิลด์
Mual - สมาชิกของกิลด์
Niruin - สมาชิกของกิลด์ เป็นจ้าวแห่งธนู
Rune - สมาชิกของกิลด์
Sapphire - สมาชิกของกิลด์
Thrynn - สมาชิกของกิลด์
Dirge - สมาชิกของกิลด์
Vipir the Fleet - สมาชิกของกิลด์ เป็นจ้าวแห่งการล้วงกระเป๋า
Vekel the Man - สมาชิกของกิลด์ บาร์เทนเดอร์ประจำบาร์ใน The Ragged Flagon

** หลังจากเราพัฒนากิลด์ หรือ เล่นผ่านเนื้อเรื่องไป จะมีตัวละครมาเพิ่มดังนี้ค่ะ **

Garthar - ทำเควสงานพิเศษของ Delvin ครบ 3 เควส
Etienne Rarnis - เล่นเนื้อเรื่องหลักจนจบ Diplomatic Immunity และปล่อยหมอนี่ออกมาด้วย
Ravyn Imyan - เล่นเนื้อเรื่องหลักของ Thieves Guild จนจบ

เควสหลักของ Thieves Guild ทั้งหมด

  • A Chance Arrangement
  • Taking Care of Business
  • Loud and Clear
  • Dampened Spirits
  • Scroundrel's Folly
  • Speaking With Silence
  • Hard Answers
  • The Pursuit
  • Trinity Restored
  • Blindsighted
  • Darkness Returns

บทสรุปเควสหลักแต่ละเควส

- A Chance Arrangement

เควสนี้จะเริ่มเมื่อ Brynjolf เดินมาคุยกับเรา ตอบคำถามเขาแล้ว เขาจะให้เราโชว์ฝีมือสักหน่อย หลังคุยเสร็จเขาจะเดินกลับไปยืนที่ร้านตัวเอง ให้เดินไปคุย แล้วบอกว่า "I'm ready" หลังจากนั้น Brynjolf จะป่าวประกาศเรียกลูกค้า ทำให้ทั้งคนธรรมดาทั้งพ่อค้าแม่ขาย (ยกเว้นยามในเมือง) เดินไปดูสินค้าของเขา ตอนนี้ให้เดินไปด้านหลังเคาเตอร์ขายของของนายกิ้งก่า Madesi (เป็นร้านขายเครื่องประดับ จะมีตู้โชว์ด้วย) ก้มลง อย่าลืมกดเข้าโหมด Sneak รอจนตาปิด แล้วสะเดาะกลอนเปิดหลังเคาเตอร์ แล้วก็สะเดาะเปิดกล่องเล็กสีดำข้างในด้วย แล้วหยิบแหวน Madesi's Ring ออกมา หลังจากนั้นเดินไปข้างหลัง Brand-Shei (เป็นดาร์คเอลฟ์ เขาจะนั่งอยู่หน้า Brynjolf ระหว่างเขาพูด) กดเข้าโหมด Sneak อีกครั้ง รอจนตาปิด แล้วกดล้วงกระเป๋า ยัดแหวน Madesi's Ring เข้าไปแล้วกดออกมา ตอนนี้ Brynjolf จะเลิกประกาศ คุยกับเขา เขาจะให้เงินเรามาเป็นค่าตอบแทน แล้วบอกให้เราไปหาเขาที่ The Ragged Flagon
** ถ้าเรายืนดูเหตุการณ์ต่อ จะมีเหตุการณ์ที่ยามเดินมารวบ Brand-Shei
** หลังทำเควสนี้จบ Brand-Shei จะไปประดิษฐานอยู่ในคุก ถ้าอยากทำเควสของหมอนี่ก็ตามไปที่นั่นได้

- Taking Care of Business

หลังจากจบเควสแรก Brynjolf จะบอกให้เราไปหาเขาที่ The Ragged Flagon ให้เดินลงไปชั้นล่างของเมือง Riften แล้วเข้าไปใน The Rat Way (ท่อระบายน้ำใต้เมือง)
ข้างใน The Rat Way จะมีพวกโจร (ไร้สังกัด) อยู่ ซึ่งจะโจมตีเราทันทีที่เห็น จัดการให้หมด ดันเจี้ยนนี้วกวนหน่อย ให้เดินระวังหน่อย พอไปถึง The Ragged Flagon ให้เดินไปคุยกับ Brynjolf ที่รออยู่ที่บาร์
พอคุยกับ Brynjolf เขาจะให้เราไปทำงานทวงหนี้ให้เขา (ไม่ต้องทำตามลำดับก็ได้) ซึ่งลูกหนี้พวกนี้ไม่ยอมจ่ายดีๆหรอก แม้เราจะคุยด้วยก็ตาม ต้องเล่นลูกไม้กันหน่อย
  • ลูกหนี้คนแรกคือ Keerava เจ้าของบาร์ Bee and Barb ให้เราคุยกับแฟนเขาที่ชื่อ Talen-Jei แล้วเลือก "You might want to talk some sense into Keerava" แล้วเขาจะบอกจุดอ่อนของแฟนมา ให้คุยกับ Keerava เรื่องหนี้ ตอนนี้เขาจะยอมจ่ายแล้ว
  • ลูกหนี้คนที่สองคือ Bersi Honey-Hand เจ้าของร้าน Pawned Prawn เดินเข้าร้านไป แล้วหมุนกล้องไปทางขวา จะเห็นไหท่าทางแพงวางอยู่ใบนึงตรงโต๊ะ ตรงข้ามเคาเตอร์ขายของ ชักอาวุธทุบไหไปจนกว่าจะแตก (ไอ้หมอนี่จะร้องจ๊ากด้วย แต่ไม่ต้องสน ทุบจนกว่าจะแตกไปเลย) เสร็จแล้วหันไปคุยกับหมอนี่ แล้วหมอนี่จะยอมจ่ายแต่โดยดี
  • ลูกหนี้คนที่สามคือ Haelga เจ้าของบ้านพักจับกัง Haelga's Bunkhouse ให้เดินเข้าบ้านพักไป เดินเลี้ยวขวาอ้อมไปหลังกำแพง จะเจอรูปปั้น Statue of Dibella อยู่ ให้กด Sneak รอจนตาปิดแล้วขโมยซะ หลังจากนั้นเดินไปคุยกับ Haelga แล้วคุณเธอจะยอมจ่าย
เราจะต้องใช้การขู่แค่ 2 คนแรก (คนไหนก่อนก็ได้) แล้วคนที่ 3 จะยอมจ่ายแต่โดยดีทันทีที่คุย เสร็จแล้วก็กลับไปหา Brynjolf เขาจะให้เราตามเขาไป เขาจะพาเราไปแนะนำกับ Mercer Frey แล้วเราจะได้เข้า Thieves Guild อย่างเป็นทางการ จากนั้น Mercer จะให้เควส Loud and Clear เราต่อ

- Loud and Clear

หลัง Mercer ให้เึควสเรา เราจะต้องบุกคฤหาสน์ Golden Glow Estate ไปเผารังผึ้ง 3 รัง และกวาดของในตู้เซฟ
ตอนนี้เราจะเดินกลับไปที่ The Ragged Flagon แล้ว คุยกับ Vex เรื่อง Golden Glow Estate ก่อนก็ได้ เขาจะบอกเส้นทางท่อระบายน้ำใต้คฤหาสน์ให้ อย่าลืมคุยกับ Tonilia ด้วย เขาจะให้ชุดโจรประจำกิลด์มาัทั้งเซ็ต
พอพร้อม ให้เดินขึ้นบันไดไม้ใน Cistern ออกไป เพื่อเปิดทางลับเข้า Thieves Guild ที่อยู่หลัง Temple of Mara ในเมือง เสร็จแล้วก็เดินทางไป Golden Glow Estate ซึ่งอยู่กลางทะเลสาบไม่ไกลจากเมือง Riften เท่าไหร่
ภายในบริเวณคฤหาสน์ จะพบว่ามีพวกนักรบรับจ้างมาเฝ้ายามเต็มไปหมด จะฆ่าหมดก็ได้ แต่ถ้าจะบุกทางท่อก็ให้ไปทางเหนือของตัวเกาะ พอเข้าไปข้างในได้ก็ให้ไปที่สวน จะเจอรังผึ้งเรียงๆอยู่ ให้เผารังผึ้งด้วยคาถาไฟ หรือ ถือคบเพลิงแล้วเผา (** ให้เผา 3 รังเท่านั้น เผาเกินมันจะตัดเงินเราเลย) เสร็จแล้วก็ไปคฤหาสน์ สะเดาะกลอนเปิดประตูเข้าไปข้างใน
ข้างในจะมีพวกนักรบรับจ้างเพียบเหมือนกัน จะฆ่าก็ได้ ถ้าเราจะเอากุญแจเซฟ ก็เดินขึ้นชั้นสอง จะเจอ Aringoth เจ้าของคฤหาสน์ ขดหลบมุมอยู่ จะคุยเอากุญแจก็ได้ (แต่มันจะปฏิเสธแทบจะตลอด แถมพุ่งมาโจมตีเราด้วย ซึ่งตอนนี้จะฆ่าเลยก็ได้) หรือ จะล้วงกระเป๋าเอากุญแจก็ได้ ตอนนี้หันกลับไปที่เตียงมองดูฝั่งขวา จะเจอรูปปั้น Queen Bee Statue อยู่ ให้เก็บมาด้วย
จะสะเดาะกลอนเองหรือจะเอากุญแจมาก่อน แต่ตู้เซฟของเราอยู่ใต้ดิน ให้เดินลงไปจะเจอพวกนักรบรับจ้างอีกก็จัดการซะ พอเปิดเซฟหยิบกวาดของข้างในเสร็จก็เดินเข้าประตูใกล้ๆไปเลย มันจะเข้าไปในท่อที่ออกไปข้างนอกได้
กลับไปที่กิลด์คุยกับ Brynjolf คุยเสร็จเขาจะให้รางวัล และ ให้เควสต่อไปมา
** Queen Bee Statue สามารถเอาไปขายให้ Delvin ได้
** ทันทีที่ทำเควสนี้เสร็จ ให้รีบไปคุยกับ Maven ทันที ไม่งั้นเควสจะติดบั๊ก แถมบางทีเฮีนบรินยอล์ฟก็ไม่ยอมให้เควสต่อไปมาด้วย ซึ่งตอนนี้ไม่มีวิธีแก้ยกเว้นจะใช้ Console Command ของ PC เท่านั้น โดยให้เปิดคอนโซล พิมพ์ completequest TG03 แล้วต่อด้วย setstage TG04 1 เราจะข้ามเควส Dampened Spirits ไปเลย โดยจะต้องไปทำ Scoundrel's Folly ต่อแทน

- Dampened Spirits

หลังคุยกับ Brynjolf เขาจะบอกให้เราไปคุยกับ Maven Black-Braiar ซึ่งมักจะอยู่ที่บาร์ Bee and Barb หรือ อยู่ที่ท้องพระโรงของวัง Misveil Keep พอคุยกับเขาเสร็จ ให้เดินทางไปที่โรงแรม The Bannered Mare ใน Whiterun เพื่อคุยกับ Mallus Macius พอคุยกับเขาเสร็จก็ให้เดินทางไปที่ Honning Brew Meadery ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Whiterun
พอไปถึง Honning Brew Meadery ให้เดินไปที่เคาเตอร์ คุยกับ Sabjorn แล้วตอบตกลงจะช่วยเขาแก้ปัญหา แล้วเขาจะให้ยาพิษมา หลังจากนั้นเดินเข้าไปข้างใน ลงไปชั้นใต้ดิน แล้วจัดการพวกศัตรูรบกวนในนั้นซะ ข้างในจะมี คน(บ้า) ชื่อ Hamelyn อยู่ด้วย ให้จัดการซะ แล้วไปต่อจนถึง Skeever's Nest แล้ววางยาซะ เสร็จแล้วเดินไปต่อ จะออกมาที่โรงบ่มเหล้า ให้เดินไปสำรวจถังแล้วเราจะวางยาเอง
กลับไปคุยกับ Sabjorn เสร็จแล้วจะมีเหตุการณ์ ให้ดูจนจบแล้วคุยกับ Mallus หลังจากคุยเสร็จเขาจะให้กุญแจเรามา ให้เดินขึ้นชั้น 2 เข้าห้องนอนของ Sabjorn ไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบ Promissory Note ออกมา อย่าลืมสำรวจให้ทั่ว ในนี้จะมี Honning Brew Decanter ที่เอาไปขายให้ Delvin ได้อยู่ เสร็จแล้วกลับไปคุยกับ Maven เขาจะให้อาวุธเวทย์เรามาชิ้นนึง
** ถ้า Maven ไม่คุยเรื่องเควส แปลว่าเจอบั๊กนะคะ ซึ่งตอนนี้ไม่มีวิธีแก้ยกเว้นจะใช้ Console Command ของ PC เท่านั้น โดยให้เปิดคอนโซล พิมพ์ completequest TG03 แล้วต่อด้วย setstage TG04 1 เราจะข้ามเควส Dampened Spirits ไปเลย โดยจะต้องไปทำ Scoundrel's Folly ต่อแทน

-Scoundrel's Folly

หลังจากทำงานให้ Maven เสร็จให้ไปคุยกับ Mercer พอคุยเสร็จ เราจะต้องไปที่บาร์ Winking Skeever ที่ Solitude เพื่อหานายกิ้งก่าชื่อ Gulum-Ei
พอคุยกับ Gulum-Ei เขาจะให้เราไปขโมย Firebrand Wine จากในวัง Solitude มาให้เขา ให้ไปที่วัง ลังไวน์จะอยู่ในทางเดินทางซ้ายมือ ให้กด Sneak รอตาปิดแล้วขโมยซะ เสร็จแล้วกลับไปคุยกับ Gulum-Ei
หลังคุยเสร็จ เราจะต้องสะกดรอยตาม Gulum-Ei ไป ให้ตามแบบห่างๆไว้ เขาจะเดินเข้าไปใน East Empire Company Warehouse ให้ระวังยามแถวนี้ให้ดีเพราะจะพุ่งมาโจมตีเราทันที แล้วเราก็ยังต้องสะกดรอยอยู่ พอสะกดรอยตามไปสักพัก ให้ระวังเพราะจู่ๆ Gulum-Ei จะกลับหลังหันแล้วเดินย้อนทาง ให้รีบหลบ จากนั้น Gulum-Ei จะเดินเข้าทางลับที่เข้าไปที่ Brine Water Grotto ตอนนี้อย่าเพิ่งตามไป ให้วิ่งขึ้นบันไดเข้าไปในบ้านพักข้างบน จะเจอแผนที่ East Empire Shipping Map ที่สามารถขายให้ Delvin ได้ หลังจากนั้นค่อยตามเข้าทางลับไป
พอเข้าทางลับไป ตอนนี้เควสจะเปลี่ยนจุดประสงค์คือให้ไปคุยกับ Gulum-Ei ตรงๆ ให้ลุยดันเจี้ยนตามปกติ ระวังด้วยเพราะแถวนี้จะมีพวกโจรอยู่ พอเข้าไปในสุดให้คุยกับ Gulum-Ei พอคุยเสร็จให้คุยอีกครั้ง แล้ว Gulum-Ei จะเป็นคนรับซื้อของโจรให้เรา
กลับไปหา Mercer พอคุยเสร็จ Mercer จะให้เควสถัดไปมา
** ถ้ามีงบเยอะ หรือ สามารถจัดหาได้ ให้กินยา Invisible Potion แล้วใส่รองเท้าที่มีความสามาถ Muffled ยังไงก็ไม่โดนจับได้เลย ยกเว้นจะเดินไปชนมันเข้า แต่ต้องระวังยาหมดฤทธิ์ หรือถ้ามีไอเทมที่มีความสามารถ Water Breathing ให้ใส่ซะ เสร็จแล้วโดดลงน้ำไปเลย เพราะยามจะมองไม่ถึงแน่ๆ
** หลังจบเควส Gulum-Ei จะคอยรับซื้อของโจรให้เรา และมักจะประจำอยู่ที่บาร์ Winking Skeever
** หลังจบเควส Mercer จะบอกให้เราไปคุยกับ Tonilia ซึ่งเขาจะให้เราเลือกเกราะโจรพื้นฐานชิ้นใดชิ้นหนึ่งเพื่ออัพเกรดให้เป็นของดีขึ้น

- Speaking With Silence

พอกลับมาคุยกับ Mercer แล้วคุยเสร็จ เขาจะนัดเราไปที่ Snow Veil Sanctrum แต่ก่อนออกไป ให้คุยกับ Tonilia เขาจะอัพเกรดเกราะชุดโจรที่เราได้ไปตอนที่เราเข้ากิลด์ให้ 1 ชิ้น
ให้เดินทางไปที่ Snow Veil Sanctrum ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Windhelm พอไปถึง คุยกับ Mercer แล้ววิ่งไปที่หน้าทางเข้า (สำรวจดูก็ได้ จะพบว่าต้องใช้กุญแจ) ยืนรอสักพัก แล้ว Mercer จะเดินลงมาเปิดให้
พอเข้าไปข้างในจะเจอพวก Draugr เต็มไปหมด พร้อมกับดักอีกพรึบ ให้ไปตามทางแล้วสำรวจดีๆให้ทั่ว ระหว่างทางจะมีกำแพงให้เรียน Shout "Disarm" ด้วย รวมถึงห้องที่มีน้ำมันเจิ่งพื้นห้อง พร้อม Model Ship ให้เก็บไปขายให้ Delvin (แต่ตอนยกเรือให้ระวัง เพราะไหไฟจะหล่นลงมาด้วยตอนยกเรือออก) อย่าลืมเรียน shout จากกำแพงด้วย
หลังจากไปตามทาง จะเจอกำแพงพัซเซิลแบบที่ต้องใช้กงเล็บมังกรเปิด ให้สำรวจ แล้ว Mercer จะเดินไปเปิดให้ จากนี้ให้เดินไปตามทาง พอเข้าไปห้องในสุด จะเจอเหตุการณ์ ให้นั่งดูจนจบ แล้วจอจะมืดไป
พอเราฟื้นมาอีกที เราจะเจอ Karliah คุยเสร็จแล้วเราจะต้องไปที่เมือง Winterhold
** Dragon Priest ของที่นี่เป็นศัตรูธรรมดา ไม่ใช่หัวหน้า Dragon Priest ที่มีหน้ากากนะคะ อย่าสับสนล่ะ

- Hard Answers

ให้เดินทางไปที่บาร์ Candle Hearth แล้วคุยกับ Enthir พอคุยเสร็จ เราจะต้องเดินทางไปคุยกับ Calcelmo ที่วัง Understone Keep ในเมือง Markarth พอคุยแล้ว Calcelmo เราจะต้องเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ Dwemer Musuem ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม เราจะมีทางเลือกดังนี้
  • ย่องไปสะเดาะกุญแจลุยเลย (แต่ถ้าเราเขาไปด้วยวิธีนี้ พวกยามข้างในจะโจมตีเรา แล้วถ้าเราโจมตีกลับ เราก็เจอค่าหัวด้วย)
  • หยิบกุญแจของ Calcelmo บนโต๊ะข้างๆ แล้วเข้าไป (เช่นกัน เราจะโดนยามไล่อัด)
  • ทำเควสของ Calcelmo ให้คุยกับ Calcelmo เรื่อง Archeological Site แล้วเขาจะขอให้เราช่วยฆ่าแมงมุม Nimhe ที่อยู่ข้างในพื้นที่สำรวจ ให้ไปฆ่าซะ แล้วกลับมาคุย เขาจะให้กุญแจเรามาดีๆ และยามข้างในก็จะไม่ไล่อัดเราด้วย
  •  ถ้าเคยทำเควส The Book of Love และเคยช่วย Calcelmo มาแล้ว ให้ลำเลิกบุญคุณซะ (After I have ...) แล้วเขาจะยอมให้กุญแจเรามา วิธีนี้ยามก็ไม่ไล่อัดเหมือนกัน
ให้เข้าไปข้างใน แล้วไปตามทางจนถึง Calcelmo's Lab พอถึงตรงนี้ ยามแถวนี้จะเป็นยามที่ Calcelmo จ้างมาเองส่วนตัว และจะเข้ามาอัดเรา แต่ตอนนี้ฆ่าไปก็ไม่เจอค่าหัว จะลุยตามชอบได้เลย ระหว่างทางจะมี ของขาย Delvin ชื่อ Dwemer Puzzle Cube อยู่บนโต๊ะทางขวาก่อนออกไปที่ Wizard's Balcony แล้วเลี้ยวขวาเดินขึ้นบันไดไปที่ Calcelmo's Tower เดินขึ้นบันไดไป หยิบกระดาษ (Paper) กับถ่าน (Charcoal) บนโต๊ะอย่างละอัน แล้วเดินไปสำรวจศิลาหิน เราจะก็อปปี้อักษรออกมา แล้วตอนนี้จะมียาม หัวหน้ายาม พร้อมหลานชายของ Calcelmo เดินเข้าห้องมา ซึ่งพวกนี้จะเป็นศัตรูกับเรา จะฆ่าหรือไม่ก็ได้ พอเสร็จก็วิ่งย้อนไปที่ Wizard's Balcony ซึ่งตรงนี้มีทางเลือก 2 ทางคือ เดินย้อนเข้าพิพิธภัณฑ์ออกไปทางเดิม กับ ยอมเสี่ยงตายไต่ระเบียงโดดลงน้ำตก ระวังให้ดีเพราะถ้าไม่ลงน้ำตกละก็ ได้โหลดเกมใหม่เลย (ทดสอบแล้วโดยเราเอง ไม่ตายค่ะ โดดน้ำตกเนี่ย) จากนั้นก็กลับไปที่ Winterhold
กลับไปถึง Winterhold จะเจอ Karliah กับ Enthir อยู่กันพร้อมหน้า ให้คุยกับ Enthir แล้วคุยกับ Karliah แล้วให้เดินทางกลับไปที่กิลด์โจร (ให้เข้ากิลด์ทาง Ratway)
** ตอนหยิบกระดาษกับถ่านบนโต๊ะ มันจะขึ้นเป็น Stolen Item แต่เราก็ใช้ฝนได้ตามปกติ แล้วพอเราได้ก็อปปี้มา ตัวก็อปปี้จะไม่มีคำว่าขโมยอยู่

- The Persuit

พอเราเข้าไปที่กิลด์ ให้เดินตาม Karliah ไป จะเจอ Brynjolf พร้อมคนอื่นๆรออยู่ หลังจากนั้นจะมีเหตุการณ์ ให้เดินตามไป หลังจากนั้นคุยกับ Brynjolf อีกครั้ง เขาจะให้เราไปค้นบ้านของ Mercer
หน้าบ้านของ Mercer จะมียามบึ้กชื่อ Vald อยู่ ซึ่งเรามีหลายวิธีในการทำให้ตานี่ไปพ้นๆทาง
  • ย่องฆ่าหมอนี่ซะเลย แล้วค้นศพหยิบกุญแจ
  • คุยกับ Vex ถามเรื่อง Vald แล้วไปคุยกับ Maven Black-Briar หลังจากนั้นก็ไปงมก้นทะเลสาบข้างเมืองเพื่อเอา Quill of Gemination มาให้ Maven หลังจากนั้นกลับไปคุยกับ Vald เขาจะจากไปพร้อมให้กุญแจบ้านมาด้วย
ภาพอธิบายกล่องของ Vald:   1    2

หลังจากจัดการให้ Vald ไปพ้นทางแล้ว ให้ยิงธนูใส่กลไกใต้ระเบียงบ้าน แล้วบันไดจะลงมา หลังจากนั้นให้เข้าไปข้างในบ้าน
ข้างในจะไม่มีอะไรมากนัก แต่ดันมียามอยู่ จะย่องหลบเอาก็ได้ ทางจะเป็นทางบังคับ เพราะห้องหลายห้องจะล็อคอยู่ และ เปิดไม่ได้ ให้ไปตามทางจนเจอตู้ Suspicious Cabinet ให้สำรวจซะ แล้วฝาหลังจะเปิดออกให้เราไปต่อได้ ให้ระวังกับดักระหว่างทางด้วย
พอไปตามทางได้สักพักจะเจอแผ่นเหยียบเต็มไปหมดขวางทางอยู่  (เหยียบแล้วไฟลุก) จะวิ่งผ่านเลยก็ได้ หรือจะเดินแบบนี้ก็ได้: (ถือว่าเพิ่งเดินออกมาเจอแผ่นเหยียบ หน้าหันไปทางทิศใต้) หน้า-หน้า-ขวา-ขวา-หลัง-หลัง-ขวา-ขวา-หน้า-หน้า เราจะเดินเป็นรูปงูขด หลบแผ่นไฟลุกมาได้ หลังจากนั้นก็ไปต่อ จะยังเจอกับดักรูปแบบอื่นอีกเพียบพอเดินไปถึงห้องที่มีโต๊ะทำงาน บนโต๊ะจะมี Mercer's Plan ที่เราต้องหยิบไป นอกจากนี้จะมี จดหมาย แล้วก็หนังสือเพิ่มสกิล Sneak ชื่อ The Red Kitchen Reader บนกะละมังบนโต๊ะจะมีอัญมณีอยู่ ส่วนตู้โชว์ทางขวาจะมีดาบ Chillrend ให้เก็บ (แต่ต้องสะเดาะกลอนเอา) อย่าลืมหยิบรูปปั้นบนโต๊ะ "Bust of the Grey Fox" มาด้วย เพราะขายให้ Delvin ได้ เสร็จแล้วออกประตูไปที่ Ratwat Vault ข้างๆ The Ragged Flagon พอดี เดินกลับเข้าไปคุยกับ Brynjolf แล้วเควสต่อไปก็จะเริ่ม
** ถ้าสับสนเรื่องทิศทางบนแผ่นเหยียบให้เดินตามทิศ ใต้ - ใต้ - ตก - ตก - เหนือ - เหนือ - ตก - ตก - ใต้ - ใต้ เอานะคะ (ขออภัยที่พิมพ์สั้น แต่แบบนี้เราว่าน่าจะจำง่ายกว่านะ)

- Trinity Restored

หลังจากคุยกับ Brynjolf เสร็จให้คุยกับ Karliah เขาจะนัดเราไปที่ Standing Stone นอกเมือง Riften (Shadow Stone) พอเดินไปถึง Karliah จะคุยกับเรา ให้เดินไปที่ Nightingale's Hall เข้าไปข้างใน รอสักพัก Karliah กับ Brynjolf จะตามมา หลังจากนั้น Karliah จะพาเราไปที่ Armor Chamber ให้สำรวจ แล้วจะได้ชุด Nightingale Armor ทั้งเซ็ตมา ให้ใส่ทั้งเซ็ตแล้วคุยกับ Karliah แล้วเดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงข้างในสุด Karliah จะให้เราไปยืนบนแท่นทางซ้าย หลังจากนั้นยืนดูเหตุการณ์จนจบ แล้วคุยกับ Karliah ต่อด้วย Brynjolf แล้วจะจบเควส แล้วเควสต่อไปจะเริ่ม

- Blindsighted

ให้เดินทางไปที่โบราณสถานดวาร์ฟ Irkngthand พอไปถึงให้คุยกับ Karliah แล้วเข้าไปข้างใน ตอนนี้เราจะมีทั้ง Karliah และ Brynjolf มาด้วย (แต่คนติดตามเรามาไม่ได้) ดันเจี้ยนนี้จะเหมือนกับโบราณสถานดวาร์ฟทั่วไปคือ ดันเจี้ยนใหญ่ แต่ไม่ซับซ้อนมาก แต่ให้ระวังเพราะศัตรูแถวนี้จะยุ่งยากหน่อย
หลังจากเข้าไปสักพัก จะเจอเหตุการณ์ของ Mercer แต่เราจะทำอะไรไม่ได้ ในห้องนี้จะมีสวิทช์ 2 แห่งอยู่ข้างบน ซึ่งพอสับอันนึงแล้วต้องรีบสับอีกอันนึงก่อนที่สวิทช์อันแรกจะหยุดหมุน พอเปิดประตูเสร็จให้เข้าไปตามทางจนถึงห้องที่มีรูปปั้นขนาดใหญ่ เราจะเจอเหตุการณ์ แล้วต้องสู้กับ Mercer โดย Karliah กับ Brynjolf จะช่วยเราไม่ได้
Mercer สู้ลำบากพอตัว เพราะทันทีที่เริ่มสู้มันจะหายตัวทันที (แต่หายตัวดียังไงเวลาวิ่งก็ยังมองเห็น เอาเข้าจริง ถ้าธนูแรงๆยิง 2 ดอก ก็ฆ่า Mercer ได้) แต่อีกวิธีที่มีคนบอกมาคือ วิ่งขึ้นไปข้างบนรูปปั้น แล้วหันหลังชนกำแพง ให้หน้าหันไปทางเดียวกับรูปปั้นยักษ์ พอจน Mercer วิ่งมา แล้วตะโกน Unrelenting Force ใส่ ทีเดียวตกลงไปตาย (แต่เราไม่ได้ลอง เพราะเรายิงธนู 2 ดอกตานี่ตาย) หลังจาก Mercer ตาย ท่อจะแตกแล้วน้ำจะเข้ามาท่วมห้อง ไม่ต้องตกใจ ให้ค้นศพ Mercer หยิบ Skeleton Key กับ Eye of Falmer ทั้ง 2 ข้างออกมา รอจนน้ำท่วมแทบทั้งห้อง แล้วเพดานจะแตกเป็นช่อง ให้ออกไปทางนั้น (อย่าลืมรอ Karliah ขึ้นมาแล้วคุย ไม่งั้นอาจเจอบั๊กที่ Karliah กับ Brynjolf ติดอยู่ใต้น้ำ) เสร็จแล้วเดินออกไปที่ Bronze Water Cave คุยกับ Karliah แล้วเราจะได้ธนูของ Karliah มา

- Darkness Returns

ให้เดินทางไปที่ Twilight Sepulcher แล้วเข้าไปข้างใน ห้องนี้จะเป็นโถงกว้าง ตรงกลางจะมีผีอยู่ 1 ตัว ให้คุยซะ เลือกทุกหัวข้อคุย แล้วประตูจะเปิด ตอนนี้จะมี Side Objective (จุดประสงค์รอง) ที่ให้หาบันทึก Nystrom's Journal ซึ่งถ้าเราจะทำด้วยก็ให้เดินไปทางซ้ายของห้อง จะเจอกระดูกนอนอยู่ ค้นศพจะเจอบันทึก (อ่านดูก็ได้ มีคำใบ้เรื่องกับดัก แล้วก็อะไรต่อมิอะไรในทางข้างหน้าอยู่)
พอเราเดินเข้าประตูไป จะเจอศัตรูเป็น Nightingale Sentinel (พวกผีรุ่นก่อนๆ แต่คลั่งไปเรียบร้อยเพราะวีรเวรของ Mercer) จัดการซะแล้วไปตามทาง จะเจอห้องที่ไม่มีศัตรู แต่แสงจะจ้ามาก และจะมีพื้นที่เงาอยู่ ให้เดินไปตามเงา อย่าออกไปโดนแสงเด็ดขาด (ไม่งั้นแป๊บเดียวตาย) ระวังกับดักระหว่างทางด้วย พอออกมาจากห้องนั้นได้ให้ไปตามทางต่อ จะเจอห้องที่มีรูปปั้น Nocturnal พร้อมศพโจร 1 ศพบนพื้น ให้สังเกตข้างๆคบไฟรอบห้อง จะมีสวิทช์คล้องกับโซ่อยู่ ให้ดึงให้หมดเพื่อดับคบไฟ พอดับหมดทางไปต่อก็จะเปิด
ตอนนี้เราจะเลือกไปได้ 2 ทาง
  • ทางแรกคือห้องทางซ้าย (มี lock ระดับ master แต่จะกลัวทำไม มี skeleton key) เปิดเข้าไปจะเจอศัตรู 2 ตัว จัดการให้หมด แล้วไปตามทาง ระวังกับดักด้วย
  • อีกทางคือ ฝ่ากับดักใบมีดไป ให้ระวังด้วยที่พื้นจะมีแผ่นเหยียบที่เหยียบแล้วกับดักลูกดอกพิษทำงานอยู่ พอไปเปิดประตูจะเจอกับดักซุงพุ่งมา ให้เตรียมหลบให้ดี
ไปตามทางต่อเข้าสู่ Twilight Sepulcher Inner Sanctrum ไปต่อตามทาง จะเจอบ่อ (อย่าลืมเซฟก่อน เพราะโดดลงไปแล้วอาจจะเจอบั๊ก) พอโดดลงไป สำรวจศพ Anders ที่ก้นบ่อ รอสักพักจะมีคัทซีน แล้วเราจะเจอกลไก Ebonmere ให้สำรวจ เราจะเสียบ Skeleton Key คืนที่เดิม แล้ว Nocturnal จะโผล่มาคุยกับเรา หลังจากนั้นให้คุยกับ Karliah เขาจะให้เราเลือกพลังพิเศษของ Nightingale ได้ 1 อย่าง (ใช้ได้ 1 ครั้งต่อวัน)
  • Agent of Stealth (แท่นรูปจันทร์เสี้ยว) : หายตัวได้ 2 นาทีขณะย่อง
  • Agent of Subterfuge (แท่นรูปจันทร์ครึ่งดวง) : ทำให้ศัตรูโจมตีกันเองเป็นเวลา 30 วินาที
  • Agent of Strife (แท่นรูปจันทร์เต็มดวง) : ดูดพลังชีวิตศัตรูมาเพิ่มให้ตัวเองได้ 100 แต้ม ทันทีที่ใช้
สมมติเลือกแล้วไม่พอใจเรามาเลือกใหม่ได้ (หลัง 1 วันในเกม)
ตอนนี้เราจะจบเควสทั้งหมายของสายนี้ แต่เราจะยังไม่ได้เป็นหัวหน้ากิลด์อย่างเป็นทางการจนกว่าจะทำเงื่อนไขจบค่ะั (อ่านข้างล่าง)
** อย่าลืมอ่านหนังสือสกิลด้วย ในนี้จะมี หนังสือสะเดาะกลอน "Proper Lock Design" กับ หนังสือสกิลย่อง "Sacred Witness" อยู่ (หลังเจอกับดักใบมีด ต่อด้วยกับดักซุง แต่จำไม่ได้ว่าตรงไหนแน่)
** หลังเควสนี้ Skeleton Key จะหายไปตลอดไป แต่เนื่องจากมันไม่นับเป็น Daedric Artifact ของ Oblivion Walker เพราะงั้นอย่าเพิ่งช็อคไปค่ะ

การเป็นหัวหน้ากิลด์โจร

แม้ทำเควสจบ ใช่ว่าเราจะได้เป็นหัวหน้าตรงๆเหมือน Faction อื่นๆ เนื่องจากขึ้นชื่อว่าโจร ทุกอย่างต้องเป็นเรื่องเงินๆทองๆ เพราะงั้นต้องทำให้กิลด์กลับไปรุ่งเรืองเหมือนในอดีตก่อนถึงจะได้รับการยอมรับ และมีพิธีแต่งตั้ง
เงื่อนไขได้แก่:
  • เล่นเนื้อเรื่องหลักกิลด์โจรจนจบ Darkness Returns
  • สร้างอิทธิพลในเมือง Whiterun (ทำ Side Quest: Imitation Amnesty)
  • สร้างอิทธิพลในเมือง Solitude (ทำ Side Quest: The Dainty Sload)
  • สร้างอิทธิพลในเมือง Windhelm (ทำ Side Quest: Summerset Shadows)
  • สร้างอิทธิพลในเมือง Markarth (ทำ Side Quest: Silver Lining)
พอทำจนหมด พอกลับไปที่กิลด์จะมีเหตุการณ์แต่งตั้ง (เควส Under New Management) แล้วเราจะได้เป็นหัวหน้ากิลด์อย่างเป็นทางการ
** ถ้าขายของหายากให้ Delvin ของที่เราขายจะไปอยู่บนชั้นวางของตรงด้านหลังโต๊ะทำงานหัวหน้ากิลด์ แต่การขายห้ามขายข้ามอันดับ ไม่งั้นจะไม่สามารถขายย้อนได้นะคะ (ทางที่ดีที่สุดคือ ทำเควสนั้นๆเสร็จปุ๊บ ขายให้ Delvin เลย ป้องกันการดองของจนลืม)

Side Quest:

Imitation Amnesty

เงื่อนไขรับเควส : จะได้จาก Delvin เมื่อทำงานของ Vex กับ Delvin งานใดก็ได้ในเมือง Whiterun รวมกันครบ 5 งาน
หลังได้เควสนี้จาก Delvin ให้เดินทางไปที่ Whiterun คุยกับ Olfrid Battle-Born เสร็จแล้วให้ไปที่ Dragonsreach เดินเข้าไปในห้องทำงาน Jarl แล้วหยิบ (ขโมย) จดหมายบนโต๊ะ จากนั้นเดินลงมานิดนึง แล้วเดินเข้าห้องที่มีหัวกวางอยู่ข้างบน สำรวจสมุดบนโต๊ะ (อย่าลืม sneak ให้ตาปิดก่อน) เสร็จแล้วกลับไปคุยกับ Olfrid แล้วเขาจะให้เครื่องประดับเรามาชิ้นนึง จากนั้นกลับไปรายงานกับ Delvin ก็จะจบเควส

The Dainty Sload

เงื่อนไขรับเควส : จะได้จาก Delvin เมื่อทำงานของ Vex กับ Delvin งานใดก็ได้ในเมือง Solitude รวมกันครบ 5 งาน
หลังรับเควสจาก Delvin ให้เดินทางไป วัง Blue Palace ที่ Solitude จะเจอ Erikur อยู่แถวๆใกล้ๆประตู (ถ้าไม่อยู่ ก็อยู่ห้องท้องพระโรงนี่ล่ะ มี 2 ชั้น ไม่เดินไปทางอื่น) คุยกับเขา เสร็จแล้วไปที่ East Empire Trading Company Warehouse จะมีเรือเทียบท่าอยู่ ให้เดินหาคนชื่อ Sabine Nytte คุยกับเขา เขาจะขอ 1500 Gold (หน้าเลือด!!) แลกกับกุญแจเปิดหีบเอาของที่เราต้องการ แต่ถ้าเรางก ล้วงกระเป๋าเอากุญแจ หรือ จะไขเองเลยก็ได้ (lock ระดับ expert) หลังจากนั้นโดดลงน้ำข้างๆเรือ Red Wave ที่เราเจอ Sabine ว่ายลงไปใต้ทางเดิน จะเจอหีบ Sabine's Footlocker ให้เปิดหีบ หยิบ Balmora Blue ออกมา จากให้ไปที่เรือ Dainty Sload (อยู่ทางเหนือของเมือง Solitude)
พอไปถึงเรือ Dainty Sload ให้เราย่องเงียบขึ้นเรือ เพราะครั้งนี้งานคือ เอาของไปใส่ในกล่องของเป้าหมาย สำหรับในเรือตอนแรก จะฆ่าเลยก็ได้เพราะยังไม่มีผล เปิดประตูเข้าเรือไป จะมีลูกเรืออยู่พอสมควร แต่ย่องหลบไปได้ไม่ยากนัก ให้ย่องผ่านให้หมดแล้วลงบันไดเดินทะลุใต้เรือไปขึ้นที่ห้องกัปตัน รอกัปตันหลับแล้วจัดการไขหีบ Captain's Footlocker ใกล้ๆ ยัด Balmora Blue ลงไป แล้วเผ่น
กลับไปคุยกับ Erikur เขาจะให้หนังสือคาถาเรามาเล่มนึง กลับไปรายงานผลกับ Delvin ก็จะจบเควส
** ในเรือ Dainty Sload จะมีหิน Stone of Barenziah (จะชื่อ Unusual Gem ถ้ายังไม่ได้คุยกับ Vex) อยู่ด้วย
** อีกกุญแจไขหีบของกัปตันจะอยู่ที่ ต้นเรือ (First Mate) ซึ่งมักจะอยู่รวมๆกับลูกเรืออื่นๆ จะเชือดแล้วหยิบกุญแจไปไขก็ได้

Summerset Shadows

เงื่อนไขรับเควส : จะได้จาก Delvin เมื่อทำงานของ Vex กับ Delvin งานใดก็ได้ในเมือง Windhelm รวมกันครบ 5 งาน
หลังรับเควสจาก Delvin ให้เดินทางไปเมือง Windhelm คุยกับ Torsten Cruel-Sea หลังจากนั้นไปคุยกับ Niranye (จะอยู่ที่แผงขายของในตอนกลางวัน เดินเข้าเมือง Windhelm เลี้ยวซ้าย ตรงไปสุดทางก็จะเจอ) เลือกขู่ (Intimidate) หลังจากนั้นให้ไปที่ Uttering Hills Cave
พอไปถึง Uttering Hills Cave จะพบว่ามีพวกโจร Summerset Shadows เต็มไปหมด จะฆ่าล้างบาง หรือ จะย่องผ่านก็ได้ ไปตามทาง จะเจอทางแยก ไม่ต้องคิดมาก ยังไงมันก็ไปรวมกันอยู่ดี ไปตามทาง เข้าประตูไปจะไปเจอฐานของพวกนี้ ตอนนี้จะมีทางเลือกซึ่งทำหรือไม่ก็ได้ คือให้ เผาตราประจำกลุ่มมันซะ ถ้าเผา เราจะโดนศัตรูพุ่งมารุมทันที ซึ่งเราจะย่องฆ่าบางส่วนก่อนด้วยธนู หรือจะเผาแล้วลุยเลยก็ได้ ยังไงก็ต้องฆ่า Linwe ที่เป็นหัวหน้าอยู่ดี พอฆ่าเสร็จ ค้นศพ หยิบ Fjolti's Locket ออกมา กลับไปหา Torsten เขาจะให้ของมาชิ้นนึง หลังจากนั้นกลับไปรายงาน Delvin ก็จะจบเควส
** หลังจบเควสนี้ Niraye จะเป็นคนรับซื้อของโจรของกิลด์ด้วย

Silver Lining

เงื่อนไขรับเควส : จะได้จาก Delvin เมื่อทำงานของ Vex กับ Delvin งานใดก็ได้ในเมือง Markarth รวมกันครบ 5 งาน
หลังจากรับเควสจาก Delvin เราจะต้องไปคุยกับ Endon ใน Silver-Blood Inn เมือง Markarth พอคุยแล้วให้เดินทางไปที่ Pinewatch เป็นกระท่อมอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Falkreath ให้เข้าไปข้างใน (ศัตรูในนี้จะฆ่าหรือไม่ก็ได้) เดินลงไปชั้นล่าง หลังจากนั้นสังเกตข้างๆชั้นวางของให้ดี จะมีปุ่มอยู่ (อยู่ข้างๆมุมโต๊ะเลย) ให้กดซะ ชั้นวางของจะเลื่อนออกเป็นทางให้เราไปต่อ พอลงไปจะพบว่าข้างล่างเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ในนี้จะมีโจรอยู่เยอะพอสมควร ให้เดินไปตามทางเดิน แล้วเราจะไปเจอประตูที่เข้าไปที่ Pinewatch Bandit's Sanctuary
ดันเจี้ยนส่วนนี้แรกๆจะยังไม่มีกับดักมากนัก แต่พอเราเข้าไปลึกๆ กับดักจะเยอะขึ้นมากระทันหัน พอเราเข้าไปลึกสุดจะเจอโลงศพที่มีสมบัติอยู่เต็ม ให้หยิบ Silver Mold ออกมา กลับไปคุยกับ Endon แล้วกลับไปรายงาน Delvin ก็จะจบเควส
** หลังจบเควสนี้ Endon จะเป็นคนรับซื้อของโจรให้เราในเมือง Markarth
** ใน Pinewatch จะมี Stone of Barenziah (Unusual Gem) อยู่ด้วย โดยจะอยู่ใน Pinewatch Bandit's Sanctuary (เปิดประตูที่เป็น novice lock จะอยู่ทางขวาของเรา)

Under New Management

เงื่อนไขรับเควส : ทำเควส Imitation Amnesty, The Dainty Sload, Summerset Shadows, Silver Lining จบหมด และ ทำเควสหลักจนจบ Darkness Returns
หลังจากทำเงื่อนไขครบ ให้ไปคุยกับ Brynjolf หลังจากนั้นเดินไปที่ตรงกลาง Cistern ที่มีแสงส่งลงมา จะมีพิธีสั้นๆ หลังจากนั้นเราจะได้กุญแจ Guild Master's Tribute Chest แล้วก็สร้อย Amulet of Articulation มา หลังจากนี้ให้ไปคุยกับ Tonilia เขาจะให้ชุด หัวหน้ากิลด์ มาทั้งเซ็ต
** กุญแจ Guild Master's Tribute Chest ใช้ไขหีบตรงหน้าโต๊ะทำงานของหัวหน้ากิลด์ ข้างในจะมีบรรณาการจากสมาชิกคนอื่นมาใส่ไว้เป็นพักๆ
** ชุดหัวหน้ากิลด์ก็คือชุดที่ Mercer ใส่อยู่ตอนแรกนั่นแหละ หน้าตาแบบนั้น

No Stone Unturned 

เงื่อนไขรับเควส : เควสนี้จะเริ่มเองอัตโนมัติเวลาเราเก็บ Unusual Gem มา ถึงจะไม่ทำก็ไม่มีผลอะไรกับเนื้อเรื่อง แต่ของมันหนักตัวนี่นา...
บทสรุปเควส : >>>Click<<<

เควสพิเศษ : เควสทำให้คาราวาน Khajiit รับซื้อของโจร

หลังจากทำ Side Quest ฟื้นฟูกิลด์ไปได้ 3 เควส ถ้าคุยกับ Tonilia เขาจะให้เควสพิเศษมา พร้อมให้ไอเทม Moon Sugar มาด้วย ให้เราเปิดแผนที่ ดูลูกศรว่าอยู่ใกล้เมืองไหนแล้วเดินทางไป (เควสนี้เป็น Misc. มันจะขึ้นว่า Deliver Moon Sugar to Ri'saad) พอส่งของเสร็จ กลับไปคุยกับ Tonilia หลังจากนี้ เราก็จะสามารถขายของโจรให้บรรดา Khajiit Caravan ภายใน Skyrim ได้
edit: เพิ่มเติมชื่อคนรับซื้อเนื่องจากมีคนสับสน ครั้งก่อนเราเขียนไม่เคลียร์จริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
  • คาราวานของ Ri'saad: Atahbah
  • คาราวานของ Ahkari: Zaynabi
  • คาราวานของ Ma'dran: Ma'jaad

เควสแถม: The Litany of Larceny

เรียกว่าเควสก็ไม่ถูกนัก เพราะ มันจะโผล่มาเองเวลาเราเก็บของที่กำหนดมา โดยหลังเก็บของแล้ว (จะพูดถึงในตัวบทสรุปข้างบนมาก่อนแล้ว) พอเราไปคุยกับ Delvin เขาจะรับซื้อของตามลำดับ ห้ามกดข้ามเพราะย้อนไม่ได้
Queen Bee Statue
Honning Brew Decanter
East Empire Shipping Map
Model Ship
Dwemer Puzzle Cube
Bust of the Grey Fox
Left Eye of the Falmer
ถ้าเผลอขายข้ามแล้วต้อง reset quest สถานเดียวนะคะ ให้ใช้ resetquest TGLarceny แล้ว setstage TGLarceny (ตัวเลข) เอาเท่านั้น ตัวเลขจะเป็น 20 / 30 / 40 / 50 / 60 / 70 / 80 เรียงตามไอเทมข้างบนนะคะ

เควสงาน

เควสงานของกิลด์โจรจะสามารถรับได้จาก 2 คน คือ Delvin Mallory และ Vex โดยแต่ละคนจะมีงานหลายชนิดต่างๆกันให้เลือก ระหว่างทำเควส ห้ามโดนจับเข้าคุก โดนจับได้ หรือ ฆ่าใครเด็ดขาด ไม่งั้นเควสจะ Fail ทันที

** อนึ่ง...ถ้าเจองานที่ไม่ชอบหรือติดบั๊ก เดินกลับมาคุยเพื่อยกเลิกได้นะคะ **

Delvin: The Bedlam Job, The Fishing Job, The Number Job
  • The Bedlam Job คือ งานขโมยอะไรก็ได้ แต่ต้องได้มูลค่ารวมอย่างน้อยตามเป้าหมายที่กำหนด เสร็จแล้วกลับไปรายงานกับ Delvin (ของที่ขโมยมาของเควสนี้ เราเอาไปขายเป็นค่าขนมได้)
  • The Fishing Job คือ งานไล่ล้วงกระเป๋าคน เอาของที่กำหนดมาให้ Delvin
  • The Number Job คือ งานแก้บัญชีร้านค้าที่กำหนด ให้เข้าไปในร้าน แล้วสำรวจสมุด Business Ledger หลังจากนั้นกลับไปคุยกับ Delvin ก็จะจบเควส

Vex: The Burglary Job, The Shill Job, The Sweep Job, The Heist Job
  • The Burglary Job คือ งานย่องเข้าบ้านคน ขโมยของที่กำหนด แล้วเอาของที่กำหนดมาให้ Vex
  • The Shill Job คือ งานเอาของผิดกฎหมายไปใส่ไว้ในบ้านเป้าหมาย หลังจากนั้นกลับไปรายงาน Vex
  • The Sweep Job คือ งานย่ิองเข้าบ้านคนเหมือนกัน แต่ต้องกวาดของมีค่าในบ้านเป้าหมายให้หมด (ของจะ มี 3 ชิ้น และ มูลค่าของในเควสนี้จะนับรวมกับเควส The Bedlam Job ของ Delvin ด้วย ถ้าเกิดเป็นเมืองเดียวกัน) หลังจากนั้นเอาของไปให้ Vex
  • The Heist Job คือ งานขโมยของที่กำหนดจากร้าน โดยของที่กำหนดจะอยู่ในกล่อง Strong Box ในร้านนั้นๆ ให้ไขกล่อง หยิบของ เสร็จแล้วเอาของกลับไปให้ Vex

 อนึ่ง ถ้าทำงานของกิลด์ไปเรื่อยๆ จะมีสมบัติมาวางตรงชั้นด้านหลังของโต๊ะทำงานหัวหน้ากิลด์ด้วย
  • 5 งาน = Jeweled Candlestick
  • 15 งาน = Ornate Drinking Horn
  • 25 งาน = Golden Ship Model
  • 35 งาน = Golden Urn
  • 45 งาน = Jeweled Goblet
  • 55 งาน = Jeweled Pitcher
  • 75 งาน = Jeweled Flagon

** เพิ่มเติม**  เควสลงโทษคนทำผิดกฎ: Reparations

การทำงานพลาดไม่ใช่เรื่องแปลก แต่กฎเหล็กคือ ห้ามขโมยของหรือสังหารบุคคลร่วมกิลด์ หากฝ่าฝืนเมื่อไหร่ทุกคนในกิลด์จะพร้อมใจกันบอยคอท (คว่ำบาตร) คุณทันที
พอเจอแบบนี้ให้เราไปคุยกับ Brynnjolf เขาจะให้เราไปหา Vex ซึ่งพอคุยกับ Vex เขาจะให้เราจ่ายค่าปรับ 1000 เหรียญ พอจ่ายเสร็จเราจะกลับเข้าเป็นสมาชิกกิลด์ตามปกติ แต่ค่าตอบแทนของเควสทุกเควสของกิลด์จะลดเหลือ 2/3 ของปกติแล้ว

รายชื่อคนรับซื้อของโจร (Fence)

Tonilia - อยู่ใน The Ragged Flagon ในกิลด์โจร ใต้ Riften เป็นคนรับซื้อคนแรกสุด
Mallus Maccius - อยู่ที่ Honning Brew Meadery ต้องจบเควส Dampened Spirits ก่อน
Gulum-Ei - อยู่ที่บาร์ Winking Skeever เมือง Solitude ต้องจบเควส Scoundrel's Folly ก่อน
Enthir - อยู่ที่ College of Winterhold ต้องจบเควส Hard Answers ก่อน
Niranye - อยู่ที่เมือง Windhelm ตรงย่านขายของ ต้องจบเควส Summerset Shadows ก่อน
Endon - อยู่ที่เมือง Markarth ต้องจบเควส Silver Lining ก่อน
Ri'saad - อยู่กับคาราวาน Khajiit ที่เดินทางไปมาใน Skyrim ต้องทำเควสพิเศษก่อน

ปิดท้าย

ณ  Sovngarde...
Tsun: "By what right do you request entry?"
Dragonborn : "By right of  plunder. I am a Nightingale of Nocturnal."
เอนทรี่เรื่อง Thieves Guild จบแค่นี้ พบกันใหม่เอนทรี่หน้านะคะ

[Skyrim] Dark Brotherhood (บทสรุป พร้อมข้อมูลเควสย่อย)

เอนทรี่นี้เป็นส่วนหนึ่งของเพจ


หากจะเอาไปลงที่อื่น กรุณาใส่ credit นะคะ ถึงเราจะทำด้วยใจรักก็เหอะ...

Faction: Dark Brotherhood


ใน Tamriel มีสมาคมนักฆ่าที่โด่งดังสะท้านสะเทือนจนเป็นตำนาน ด้วยวิธีจ้างวานที่ไม่มีสมาคมอื่นใดเลียนแบบได้ และ เป้าหมายก็แทบจะไม่มีทางรอดชีวิตแม้ตัวจักรพรรดิเอง ภายใต้การชี้นำของ Night Mother เหล่านักฆ่าสังหารเป้าหมายในนามของบิดาแห่งความกลัว "Sithis" หลังจากกาลเวลาผ่านไปยาวนาน สมาคมนักฆ่าอันเป็นตำนานนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างกัน?

วิธีเข้าร่วม

ไปที่โรงแรมไหน หรือ บาร์เหล้าไหนก็ได้ ถามหาข่าวลือ จะเจอข่าวลือว่า Aventus Aretino พยายามประกอบพิธีกรรมอะไรสักอย่างอยู่ แล้วเราจะเริ่มเควสแรกสุดของเควสสาย Dark Brotherhood "Innocence Lost"

แนะนำตัวละครใน Dark Brotherhood

Astrid - หัวหน้าของ Sanctuary สาขา Skyrim
Nazir - นักฆ่าเผ่าเรดการ์ด สามารถรับสัญญาว่าจ้างฆ่าจากเขาได้
Veezara - นักฆ่าเผ่าอาร์โกเนี่ยน เป็นนักฆ่ามาตั้งแต่จำความได้ เพราะธรรมเนียมของเผ่า
Gabriella - นักฆ่าเผ่าดาร์คเอลฟ์ มักบอกว่าตัวเองมีรสนิยมเรียบง่าย แต่ งดงาม
Festus Krex - นักเวทย์นักฆ่า ชอบใช้เวทย์สาย Destruction ใส่เป้าหมาย
Arnbjorn - มนุษย์หมาป่านักฆ่า อดีต Companion และเป็นสามีของ Astrid
Babette - แวมไพร์ในคราบเด็ก อายุจริง 300 กว่าปี เป็นจ้าวแห่งการปรุงยา
Cicero - Keeper ของ Night Mother ทำหน้าที่ดูแลรักษาร่างของ Night Mother
Night Mother - ผู้นำของ Dark Brotherhood

เควสหลักของ Dark Brotherhood ทั้งหมด

  • Innocence Lost
  • With Friends Like These...
  • Sanctuary
  • Mourning Never Comes
  • Whispers in the Dark
  • The Silence Has Been Broken
  • Bound Until Death
  • Breaching Security
  • The Cure for Madness
  • Recipe for Disaster
  • To Kill an Empire
  • Death Incarnate
  • Hail Sithis!

บทสรุปเควสหลักแต่ละเควส

- Innocence Lost

หลังจากไปคุยหาข่าวลือที่โรงแรมหรือบาร์เหล้าก็ได้จนได้เควสนี้มา ให้ไปที่เมือง Windhelm แล้วไปที่ Aretino Residence จะพบกับ Aventus Aretino ซึ่งพอคุยเสร็จ เราจะต้องไปฆ่า Grelod the Kind ที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้า Honor Hall Orphanage ที่ Riften พอฆ่าเสร็จกลับไปหา Aventus ก็จะจบเควส
**ถ้าถามตามโรงแรมแล้วไม่มี วิ่งตรงไป Windhelm แล้วงัดบ้าน Aretino Residence เลยก็ได้นะคะ เริ่มเควสได้เหมือนกัน
**หลังจากจบเควสพักนึง จะมีคนนำสารวิ่งเอาจดหมายลึกลับมาส่งให้ หลังจากนั้นถ้าเรานอนหลับเราจะโดนลักพาตัว และเป็นการเริ่มเควสต่อไป แต่บางครั้งเราก็โดนลักพาตัวก่อนจดหมายมาถึงได้เหมือนกัน

- With Friends Like These...

หลังถูกลักพาตัว เราจะตื่นขึ้นมาในกระท่อมร้าง แล้วเราจะเจอคัทซีนคุยกับ Astrid หลังจากนั้นเราจะต้องฆ่าคนใดคนหนึ่งใน 3 คนที่ถูกมัดอยู่อีกฟากนึงของกระท่อม พอฆ่าเสร็จ Astrid จะบอก Password ของ Dark Brotherhood Santuary ที่ข้างๆ Falkreath แล้วให้กุญแจไขประตูกระท่อมเรามา พอออกไปข้างนอกได้ ให้ไปที่ Dark Brotherhood Sanctuary แล้วบอก Password กับประตู พอเราเข้าไปข้างใน คุยกับ Astrid เราจะได้ชุด Shrouded Armor ทั้งเซ็ต แล้วจะจบเควส แต่ Astrid จะสั่งให้เราไปคุยกับ Nazir และจะเริ่มเควสต่อไป
** Password ของประตูที่ข้าง Falkreath คือ "Silence, My Brother"
** บนโต๊ะของ Astrid จะมี Stone of Barenziah (Unusual Gem ถ้าเรายังไม่ได้คุยกับ Vex) อยู่ด้วย
** ถ้าเราไม่ฆ่าหนึ่งในสามตัวที่ถูกมัด แต่ไปฆ่า Astrid แทน จะเป็นการเริ่มเควสทำลายล้าง Dark Brotherhood แทน และจะไม่สามารถทำเควสสาย Dark Brotherhood ต่อได้อีก (ถ้าจะทำสายทำลายต่อ ให้ไปคุยกับยามคนไหนก็ได้ แล้วไปคุยกับ Commander Maro ที่หมู่บ้าน Dragon Bridge)
บทสรุป Destroy the Dark Brotherhoodหลังเชือด Astrid เกมจะบอกให้เราไปคุยกับยามคนไหนก็ได้ ก็ให้ไปคุยซะ ตามสั่ง แล้วไปคุยกับ Commander Maro เราจะได้ password สำหรับประตูมา ก็ให้ไปที่ Dark Brotherhood Sanctuary นอกเมือง Falkreath แล้วฆ่าล้างบางให้หมด แล้วกลับไปคุยกับ Maro จะได้เงินรางวัล 3000 เป็นอันจบเควส
**ระวังให้ดี เพราะทำเควสสายนี้แล้วเกิดเปลี่ยนใจจะไม่มีวันย้อนไปทำสาย Dark Brotherhood ได้อีก แล้วยังสูญโอกาสที่จะได้ไอเทมจากเควสสายนี้ที่บางชิ้นดีที่สุดในเกมด้วย

- Sanctuary

คุยกับ Nazir เขาจะให้ Contract (สัญญาฆ่า) มา 3 อัน ซึ่งนับเป็น Side Quest
  • Contract: Kill Narfi - ฆ่าขอทาน Narfi ในหมู่บ้าน Ivarstead
  • Contract: Kill Beitild - ฆ่า Beitild ในเมือง Dawnstar
  • Contract: Kill Ennodius Papius - ฆ่า Ennodius Papius อยู่แถวๆ Anga's Mill ทางตะวันตกของเมือง Windhelm
จะฆ่าทีละคนแล้วมารายงาน 3 รอบ หรือ จะฆ่ารวด 3 คนแล้วมารายงานก็ได้ พอเสร็จทั้งหมดแล้วพอกลับเข้ามาที่ Dark Brotherhood Sanctuary จะเจอเหตุการณ์แล้วจะเริ่มเควสต่อไป
** Narfi เป็น NPC ที่เกี่ยวข้องกับเควส Misc. อันนึงในหมู่บ้าน Ivarstead ก่อนจะรับสัญญาฆ่าน่ะ ไปทำก่อนก็ดี


- Mourning Never Comes

พอคุยกับ Astrid เราจะโดนสั่งให้ไปทำงานจริงๆจังๆครั้งแรก ตั้งแต่รับสัญญาฆ่าจากนายจ้าง ซึ่งครั้งนี้คือ Muiri ซึ่งอยู่ที่เมือง Markarth หาตัวไม่ยากเพราะ Muiri จะอยู่ที่ร้านขายยา The Hag's Cure ซะส่วนใหญ่ พอคุยแล้ว Muiri จะให้เราไปฆ่า Alain Dufont แล้วจะขอร้องเราเพิ่มว่าถ้าเป็นไปได้ให้ช่วยฆ่า Nilsine Shatter-Shield ด้วย หลังคุยเสร็จถ้าคุยต่อ เราจะได้ยาพิษ Lotus Extract มา 2 ขวด
Alain จะอยู่กับแก๊งค์โจรที่โบราณสถาน Raldbthar อยู่ไม่ไกลจากทางเข้านัก เดินแป๊บเดียวก็เจอ หลังจากนั้นถ้าเราจะฆ่า Nilsine ด้วยก็ลำบากนิดนึง พอเราเดินไปหน้าบ้าน Shatter-Shield บางทีจะเจอ Nilsine เดินมาคนเดียว รอให้เดินผ่านไป กด sneak แล้วยิงธนูปักหลังเลยก็ได้ แต่ที่ง่ายกว่าคือ ไปดักที่ Hall of the Dead หรือ Temple of Talos หลังเวลา 7 pm จะเจอ Nilsine อยู่คนเดียวที่นั่น
ถ้าฆ่า Alain อย่างเดียว Muiri จะให้มาแค่เงินค่าจ้างเท่านั้น แต่ถ้าฆ่า Nilsine ด้วย จะได้แหวน Muiri's Ring มาด้วย หลังจากนั้นให้กลับไปที่ Dark Brotherhood Sanctuary
** หลังจากฆ่า Nilsine แม่ของ Nilsine ที่ชื่อ Tova Shatter-Shield จะฆ่าตัวตาย และศพจะกองอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน Shatter-Shield

- Whispers in the Dark

พอกลับเข้ามา จะเจอเหตุการณ์แล้ว Astrid สั่งเราให้ไปซ่อนในโลงของ Night Mother พอไปซ่อนแล้วจะต้องนั่งฟังบทร่ายยาวสักหน่อย ก่อนจะได้ออกมาจากโลงแล้วพูดกับ Cicero หลังจากนั้น Astrid จะเข้ามาพอคุยเสร็จแล้วเราจะโดนสั่งไปรับงานจาก Nazir ต่อ 2 งาน (Side Quest เหมือนเดิม)
  • Contract: Kill Hern - Hern เป็นแวมไพร์ อยู่ที่ Halfmoon Mill ทางตะวันตกของทะเลสาบทางเหนือของเมือง Falkreath
  • Contract: Kill Lurbuk - Lurbuk เป็นออร์ควณิพก อยู่ที่โรงแรม Moorside Inn ในเมือง Morthal
พอทำงานจบทั้ง 2 งาน Astrid จะเรียกตัวเราไปรับเควสต่อไป
** Hern จะอยู่คนเดียวในช่วงกลางวันเป็นบางครั้ง
** Lurbuk ไม่เคย ย้ำ ว่าไม่เค้ย ไม่เคย ออกจากโรงแรม (!?) แต่สามารถรอให้ Lurbuk ไปนั่งที่โต๊ะ แล้วเราเดินเข้าห้องฝั่งที่ Lurbuk หันหลังให้ แล้วสอยด้วยธนูจากข้างหลังได้ (อย่าลืมดูสัญลักษณ์รูปลูกตากลางจอด้วยว่าต้องปิดสนิท)

- The Silence Has Been Broken

พอกลับไปที่ Dark Brotherhood Sanctuary เราจะโดน Astrid เรียกไปคุย แล้วเราจะถูกสั่งให้ไปที่ Volunruud เพื่อไปพบ Amaund Motierre โดยนาย Amaund จะอยู่ที่ห้องเล็กๆไม่ไกลจากทางเข้าของ Volunruud คุยกับเขา แล้วจะได้เครื่องรางมา ให้กลับไปหา Astrid คุยเสร็จเราจะต้องไปหา Delvin Mallory ที่ The Ragged Flagon ใน The Ratways ใต้เมือง Riften คุยกับ Delvin เสร็จ เราจะได้จดหมายให้เอากลับไปให้ Astrid แล้วเราจะต้องไปทำงานเควสต่อไปทันที
** ใครเป็นสมาชิก Thieves Guild ก็สบายหน่อย ไม่ต้องฝ่า Ratways ลงไป แต่ถ้าไม่ใช่ก็ลุยดันเจี้ยน Ratways ไป ทางคดเคี้ยวนิดหน่อยแต่ไม่ยาว

- Bound Until Death

หลังคุยกับ Astrid เสร็จ เราจะต้องไปฆ่า Victoria Vici ในงานแต่งงานของเจ้าตัว โดยถ้าอยากได้โบนัส ก็ต้องฆ่าในขณะที่กำลังกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งสามารถเลือกฆ่าได้หลายวิธี
  • ยิงธนูเสียบจากระเบียงใกล้ๆ: ครั้งนี้มีการจัดฉากอย่างดี ให้เราเดินไปตรงข้างหน้าที่ Victoria นั่งอยู่ หันหลังให้ Victoria แล้วเดินเข้าประตูข้างหน้าทางซ้ายไป พอออกมาที่ระเบียงก็ก้มดูตรงพื้น จะมีธนู Firniel's End, ลูกธนู พร้อมทั้งพิษไว้ให้ใช้
  • วิ่งขึ้นข้างบน อ้อมไปเหนือระเบียงที่กล่าวสุนทรพจน์ แล้วผลักรูปปั้นลงไปทับ
ไม่ว่าจะฆ่าด้วยวิธีไหน สักพัก Veezara เพื่อนร่วมสมาคมเราจะโผล่มา บอกให้เราหนีไประหว่างเขาไปสร้างความโกลาหลให้ หลังจากนั้นให้เราเผ่นออกมาแล้วกลับไปที่ Dark Brotherhood Sanctuary รายงาน Astrid ว่างานเสร็จแล้ว ซึ่งถ้าเราฆ่าระหว่างคุณเธอกำลังพูด Astrid จะแถมพลัง Summon Spectral Assassin ให้เราไว้ใช้ด้วย แล้วจะต้องทำเควสต่อไปทันทีให้เราไปคุย Gabriella
** ถ้าเราหลบหน้า Veezara วิ่งออกนอกเมืองไปเลยโดยไม่มีใครเห็น เราจะไม่โดนโจมตีหรือ ติดค่าหัวเลย พวกยามก็จะไม่โจมตีเราด้วย
** Vittoria Vici เป็น NPC ในเควส Misc. ของเมือง Solitude เควสนึง ถ้าไม่อยากพลาดก็ไปทำเควส Misc. อันนั้นก่อนทำเควสนี้ค่ะ

- Breaching Security

คุยกับ Gabriella เราจะต้องไปฆ่า Gaius Maro แล้วเอาจดหมายปลอมเสียบไว้ โดยเราต้องไม่ฆ่ากลางถนนแต่ต้องฆ่าในเมืองอื่นที่ำไม่ใช่ Dragon Bridge เท่านั้นถ้าอยากได้โบนัส หลังจากคุยเสร็จ ให้เราเดินทางไปที่ Dragon Bridge เพื่อดูเหตุการณ์ที่ Gaius ออกเดินทาง หลังจากนั้นถ้าอยากให้อะไรง่ายขึ้น เราจะไปขโมยตารางเดินทางของ Gaius จากใน ตึกข้างๆก็ได้ หลังจากนั้นก็ตามไปดักฆ่าในเมืองตามวัน
  • Mourndas : กลางวัน - Solitude: the Emporor's Tower , กลางคืน - Solitude : Castle Dour
  • Tirdas: กลางวัน - Windhelm: Palace of the Kings, กลางคืน - Windhelm: Barracks
  • Middas: ทั้งวัน - Riften: Misveil Keep
  • Turdas: กลางวัน - Whiterun: Dragonsreach, กลางคืน - Whiterun: The Bannered Mare
  • Fredas: กลางวัน - Markarth: Understone Keep, กลางคืน - Markarth: Guard Tower
  • Loredas, Sundas : ที่อยู่ไม่แน่นอน
วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ไปดักในโรงแรม The Bannered Mare ใน Whiterun เพราะถ้าเป็นที่อื่นละก็ ยามเยิม เต็มไปหมด รอให้หลับแล้ว sneak attack ตอนหลับให้ทีเดียวตายไปเลย
ฆ่าเสร็จก็เอาจดหมายเสียบ แล้วกลับไปที่ Dark Brotherhood Sanctuary จะเจอ Gabriella ดักหน้าประตู คุย แล้วจะได้เงิน กับ Olava's token เอาไว้ดูดวงกับ Olava the Feeble ในเมือง Whiterun แล้ว Grabriella จะบอกให้เราไปคุยกับ Astrid
** ถ้าเราดูดวงกับ Olava แล้ว เขาจะบอกคำทำนายเรื่องอนาคตของ Dark Brotherhood แล้วจะบอกที่ซ่อนของ Assassin of Old ซึ่งต้องการมอบอุปกรณ์ให้เรา ให้เราไปที่ Hag's End (ต้องผ่าน Deepwood Redoubt เข้าไป) ตัว Assassin of Old จะอยู่ในห้องลับ ให้สำรวจศพ แล้วจะได้เกราะ Ancient Shrouded Armor มาทั้งเซ็ต

- The Cure for Madness

หลังจาก Gabriella บอกให้ไปคุยกับ Astrid ให้เราเดินเข้าไปข้างใน จะเจอเหตุการณ์ แล้ว Astrid จะให้เราไปค้นเบาะแสว่าทำไม Cicero ถึงก่อเรื่อง ให้อ่านหนังสือ Cicero's Journal: Final Volume แล้วหยิบไปด้วย กลับไปคุยกับ Astrid แล้วเราจะต้องตามล่า Cicero และ ช่วย Arnbjorn สามีของ Astrid ที่ไล่ตาม Cicero ไป พร้อมกับให้ม้า Shadowmere มาด้วย ให้เดินออกมานอก Dark Brotherhood Sanctuary แล้วจะมีคัทซีนที่ Shadowmere โผล่มา หลังจากนั้นให้ไปที่ Dawnstar ข้างหน้าประตู Dawnstar Sanctuary จะเจอ Arnbjorn อยู่ คุยซะแล้วเข้าไปข้างใน โดยตอบคำถามประตูว่า "Innocence, My Brother"
เข้าไปแล้วจะเจอผีเฝ้าที่เต็มไปหมด ให้ลุยเข้าไป ตอนก่อนถึง Cicero จะมี Udefrykte (โทรลแบบโหด) อยู่ จะฆ่าหรือจะ sneak ผ่านก็ได้ พอเข้าไปในสุดจะเจอ Cicero หลังคุยเสร็จเราจะมีทางเลือกว่าจะฆ่า หรือ ไม่ฆ่า Cicero (ถ้าจะไม่ฆ่าก็ กลับหลังหันเดินออก Sanctuary ไปเลย หลังมันพล่ามเสร็จ) แต่ไม่ว่ายังไง พอกลับไป Dark Brotherhood Sanctuary แล้วคุยกับ Astrid ก็จะเริ่มเควสต่อไป
** ถ้าเราไม่ฆ่า Cicero ละก็หลังจบเควส Hail Sithis! เจ้าตัวตลกจะกลับมาทำหน้าที่ดูแล Night Mother ต่อ และ เราจะสามารถเอา Cicero เป็นผู้ติดตามได้

- Recipe for Disaster

Astrid จะส่งเราไปคุยกับ Festus Krex หลังจากนั้นเราจะต้องไปที่ Markarth เข้าไปที่ Understone Keep คุยกับ Anton Virane ระหว่างคุยให้เลือกข้อ Intimidate แล้ว Anton จะยอมบอกตัวจริงของคนที่เราต้องไปฆ่า หลังจากนั้นรอจน Anton ไปนอนแล้วฆ่า Anton ซะ หลังจากนั้น ให้ไปที่ Nightgate Inn ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของ Windhelm จากทะเลสาบวิ่งไปทางตะวันตก(เฉียงเหนือเล็กน้อย)
เป้าหมายที่เราต้องฆ่าคือ ออร์ค ชื่อ Balagog gro-Nolob ซึ่งพักอยู่ในใต้ถุนโรงแรมในตอนกลางคืน และ ไปนั่งริมสระน้ำในตอนกลางวัน ถ้าเราอยากได้โบนัส หลังฆ่าแล้วต้องซ่อนศพด้วย
  • ในตอนกลางวัน ฆ่า ค้นศพ หยิบกระดาษ Writ of Passage ออกมา หลังจากนั้นหย่อนศพลงสระน้ำไปเลย
  • ในตอนกลางคืน ฆ่าเสร็จ ค้นศพหยิบกระดาษแล้ว ต้องลากออกมานอกห้องซ่อนไว้หลังกองฟาง หรือ คุยกับหมอนี่ซึ่งหน้า ให้กลัว แล้วหมอนี่จะไปขดอยู่หลังถังไวน์ ซึ่งฆ่าเสร็จจะเป็นการซ่อนศพแบบเสร็จสรรพไปเลย
กลับไปรายงานกับ Festus Krex ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน และถ้าเราซ่อนศพด้วย เราจะได้ Nightweaver's Band มาอีกอย่างนึง เขาจะให้เราไปหา Astrid เพื่อเริ่มเควสต่อไป
**วิธีลากศพ ให้กดสำรวจศพค้างนะคะ แล้วจากนั้นขยับลากศพไปไหนก็ตามใจค่ะ (ใช้ได้กับของอื่นๆด้วย) พอจะเลิกลากก็กดสำรวจอีกทีค่ะ เราจะปล่อยละ

- To Kill an Empire

คุยกับ Astrid แล้ว Astrid จะให้ Jarrin Root มา เสร็จแล้วแล้วเดินทางไปที่ Solitude แล้วเข้าปราสาทไปด้วย Writ of Passage ที่เราหยิบมาตอนเควสที่แล้ว พอเข้าไปให้คุยกับ Gianna ซึ่งถ้าเราไม่ได้ใส่หมวกทำครัว (Chef's Hat) เจ๊แกจะบอกให้เราหยิบมาใส่ก่อน ก็ใส่หมวกซะ แล้วคุยอีกที เราจะต้องเลือกส่วนผสมของอาหาร ซึ่งจะใส่เละ มั่วไม่น่าอร่อยยังไงก็ได้ ซึ่งตอนท้ายเราจะเลือกได้ว่าจะใช้ Jarrin Root หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ใช้ เราจะต้องหาทางฆ่าวิธีอื่นแทน ระหว่างที่ Jarrin Root นั้น คำเดียวไปโลกหน้าเลย
หลังปรุงอาหารเสร็จ เราจะต้องเดินตาม Gianna เอาอาหารไปเสิร์ฟ หลังจากจักรพรรดิม่อง ให้เผ่นออกประตูฝั่งตรงข้ามกับที่เราเดินเข้ามาพร้อม Gianna
ระหว่างวิ่งข้ามสะพาน เราจะโดนแม่ทัพ Maro มาดัก ให้ดูเหตุการณ์ให้จบ แล้วเราจะเจอค่าหัว 1500 ทันทีในพื้นที่ Haafinger หลังจากนั้นให้เผ่นกลับ Dark Brotherhood Sanctuary ซึ่งพอไปถึงก็จะจบเควส

- Death Incarnate

ตอนนี้ Dark Brotherhood Sanctuary จะโดนไฟไหม้แทบทั้งพื้นที่ ให้เข้าไปข้างในจะเจอ Nazir ให้ช่วย Nazir สู้กับทหาร (ก่อนนั้นจะเจอ Arnbjorn แต่ยังไงก็ช่วยไม่ได้ บทสั่งมา) หลังจากนั้นให้วิ่งย้อนทาง แล้วจะมีเสียง Night Mother เรียกให้ไปหา ให้เข้าไปอยู่ในโลง หลังจากโลงปิดก็จะมีคัทซีนสักพัก แล้ว Night Mother จะบอกให้เราไปหา Astrid
เดินไปห้องของ Astrid คุยเสร็จแล้ว Astrid จะยกมีด Blade of Woe ให้เรา และ เราจะต้องฆ่า Astrid หลังจากนั้นเราจะต้องไปหา Amaund Motierre อีกครั้ง

- Hail Sithis!

ตอนนี้ Amaund จะมาอยู่ที่โรงแรม The Bannered Mare ใน Whiterun ให้ไปคุยแล้วเขาจะบอกที่อยู่ของจักรพรรดิตัวจริงให้ว่าอยู่บนเรือ Katariah นอกชายฝั่งของเมือง Solitude และถ้าคุยต่อ เราจะถามที่อยู่ของ แม่ทัพ Maro ได้ด้วย ซึ่งถ้าถามแล้วเราจะฆ่า หรือ ไม่ฆ่า Maro ก็ได้
ว่ายน้ำตามไปขึ้นเรือ Katariah โดยปีนเข้าจากสมอใต้เรือ พอขึ้นไปเราจะ sneak หรือ จะตะบี้ตะบันลุยก็ได้ แต่ยังไงก็ตาม เราต้องไปเอากุญแจ Katariah Masterkey จาก Leutenant Salvarius หรือ Captain Avidius ก่อนเพื่อให้เปิดห้องเข้าไปฆ่าจักรพรรดิได้
หลังจากเปิดห้องจักรพรรดิได้ คุยกับจักรพรรดิสักพักก่อน แล้วเขาจะยอมให้เราฆ่าแต่โดยดี แต่จะขอร้องเราว่า ถ้าเป็นไปได้ ช่วยฆ่า คนที่ว่าจ้างฆ่าจักรพรรดิ (Amaund) ได้ไหม
ฆ่าเสร็จ กลับไปหา Amaund ที่ Whiterun เขาจะบอกว่าค่าจ้างอยู่ในหีบที่ Volunruud ที่ที่เราเจอ Amaund ครั้งแรก ตอนนี้เราจะฆ่า Amaund ก็จัดซะ แต่ไม่มีโบนัสอะไร หลังจากนั้นไปเอาค่าจ้างในหีบในห้องที่ Amaund เคยอยู่ แล้วไปที่ Dawnstar Sanctuary
พอกลับมาถึง คุยกับ Nazir เขาจะถามเรื่องค่าตอบแทน จะบอกตามตรงหรือจะโกหกก็ได้ Nazir จะแนะให้เราไปหา Delvin Mallory เพื่อฟื้นฟู Dawnstar Sanctuary (เควส Where You Hang Your Enemy's Head...)
หลังจากนี้ เวลาเราเดินไปใกล้ๆโลงของ Night Mother เราจะได้เควส The Dark Brotherhood Forever ซึ่งทำซ้ำได้เรื่อยๆ
**บนเรือ Katariah จะมีดาบ Windshear ให้เก็บด้วย อยู่ตรงหัวเรือ


Side Quest - เควสประเภททำได้ครั้งเดียวทั้งหลาย

เควสประเภทสัญญาว่าจ้างฆ่า (พร้อมสถานที่ที่พบเป้าหมาย)

  • Contract: Kill Narfi - หมู่บ้าน Ivarstead (เกี่ยวข้องกับเควส Misc. อันนึงในหมู่บ้าน)
  • Contract: Kill Beitild - เมือง Dawnstar
  • Contract: Kill Ennodius Papius - แถวๆ Anga's Mill ทางตะวันตกของเมือง Windhelm
  • Contract: Kill Hern - Halfmoon Mill ทางตะวันตกของทะเลสาบทางเหนือของเมือง Falkreath
  • Contract: Kill Lurbuk - โรงแรม Moorside Inn ในเมือง Morthal
  • Contract: Kill Deekus - Hela's Folly ทางเหนือของเมือง Dawnstar
  • Contract: Kill Ma'randru-jo - คาราวาน Khajiit อยู่นอกเมืองใหญ่ๆ
  • Contract: Kill Anoriath - เมือง Whiterun หรือ ทุ่งข้างเมือง Whiterun
  • Contract: Kill Agnis - Fort Greymoor ทางตะวันตกของ Whiterun
  • Contract: Kill Maluril - โบราณสถาน Mzinchaleft ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Dawnstar
  • Contract: Kill Helvard - ใน Jarl's Longhouse เมือง Falkreath
  • Contract: Kill Safia - เรือ Red Wave ที่ท่าเรือเมือง Solitude

เควส Where You Hang Your Enemy's Head... ต้องจบเนื้อเรื่องหลักก่อนถึงจะทำได้

เ้ป็นเควสฟื้นฟู Dawnstar Sanctuary ให้เป็นบ้านหลังใหม่ (ในคราบเก่า) ของ Dark Brotherhood พอคุยกับ Delvin Mallory จะมีตัวเลือกต่อไปนี้
  • New banners (1,000 gold) - เพิ่มตราใน Sanctuary
  • Poisoner's Nook (5,000 gold) - เพิ่ม Alchemy Tab สำหรับปรุงยา พร้อมสวนสมุนไพรพิษ
  • Torture Chamber (5,000 gold) - เพิ่มเหยื่อ 4 คนมาให้ทรมาน จับทรมานแล้วจะบอกที่ซ่อนสมบัติ
  • Secret Entrance (5,000 gold) - เพิ่มทางเข้าออกลับที่อีกฟากของเมือง Dawnstar
  • Master Bedroom (3,000 gold) - เพิ่มห้องนอนส่วนตัวให้เรา แถมถุงมือ Tumblerbane Gloves ด้วย
หลังจากซื้อหมด ให้เลือกข้อสุดท้ายที่เหลืออยู่ Delvin จะบอกว่า หมดแล้ว แล้วจะจบเควส

เควสงาน (ทำซ้ำกี่รอบก็ได้)

The Dark Brotherhood Forever ต้องจบเนื้อเรื่องหลักก่อนถึงจะมีให้

เควสนี้มาเรื่อยๆ และ ทำได้เรื่อยๆ เริ่มจากเดินไปใกล้ๆโลงของ Night Mother หลังจากนั้น Night Mother จะบอกผู้ว่าจ้างว่าอยู่ที่ไหน ให้เราไปหาผู้ว่าจ้าง รับเงินมา แล้วตามไปฆ่าเป้าหมายที่กำหนด พอฆ่าเสร็จก็จะจบเควส แล้วเริ่มใหม่อัตโนมัติ ให้เราเดินไปหา Night Mother ใหม่


** เพิ่มเติม ** เควสลงโทษ: Honor Thy Family

หากเราลองซ้อมแกว่งอาวุธเล่นใน Sanctuary แล้วอาวุธดันบินไปชนคนอื่นในสังกัด Dark Brotherhood เราจะโดนลงโทษด้วยการหมดสภาพการเป็นสมาชิก Dark Brotherhood ชั่วคราว จนกว่าจะไปจ่ายค่าปรับชดใช้ความผิดที่ Nazir จำนวน 300-500 gold ค่ะ
ก่อนหน้านี้เราไม่ได้ใส่ไว้ เพราะไม่นึกว่าจะมีคนพลาดไปตีคนในกิลด์ด้วยกัน แต่อาจจะมีก็ได้
ปล. Spectral Assassin ก็นับเป็นสมาชิกนะคะ ใครเผลอไปฟาดเข้าก็เจอค่าปรับเหมือนกัน
ปล2. ค่าปรับจะเป็น 500 ตอนที่ยังไม่จบเนื้อเรื่อง แต่ถ้าจบเนื้อเรื่อง (เควส Hail Sithis!) จะเหลือแค่ 300 gold ค่ะ

ปิดท้าย

ณ  Sovngarde...
Tsun: "By what right do you request entry?"
Dragonborn : "By right of  blood. I listen for the Night Mother."

เอนทรี่เรื่อง Dark Brotherhood จบแต่เพียงเท่านี้
ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ พบกันเอนทรี่หน้าค่ะ