8/03/2566

[Skyrim] Bards College (บทสรุป พร้อมข้อมูลเควสย่อย)

 
เอนทรี่นี้เป็นส่วนหนึ่งของเพจ
 
 
หากจะเอาไปลงที่อื่น กรุณาใส่ credit นะคะ ถึงเราจะทำด้วยใจรักก็เหอะ...
 
 
Faction : Bards College
 
ณ ถนนที่ตรงเข้าสู่วัง Blue Palace ของเมือง Solitude คือที่ตั้งของวิทยาลัยวณิพกแห่งสกายริม บทเพลงที่เหล่าวณิพกร้อง บ้างก็เป็นความจริงในคราบบทเพลง บ้างก็เป็นคำโกหกพกลม หรือ เป็นความจริงในบทยั่วล้อประชดแดกดัน แต่ก็เป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่นิยม และ ไพเราะในแบบของมัน แต่บางครั้งวณิพกเหล่านี้ก็น่าโดนอัดอย่างประหลาดด้วยเหมือนกัน
 
อนึ่ง แม้เราเข้าวิทยาลัยนี่แล้ว เราก็ร้องเพลง หรือ เล่นเครื่องดนตรีไม่ได้นะคะ อยากร้องก็ต้องร้องนอกเกมเอาเอง (เศร้า สงสัยในเกมกลัวเราร้องที มังกรพุ่งมาหาเพราะเสียงดีจัด)
 
 
วิธีเข้าร่วม: เดินเข้าไปในวิทยาลัย แล้วคุยกับ Viarmo แล้วจะเป็นการเริ่มเควส Tending the Flames ซึ่งเป็นเควสเข้าร่วม Faction นี้
 
 
แนะนำตัวละครใน Bards College
 
Viarmo - ผู้อำนวยการวิทยาลัย
 
Giraud Gemane - ครูสอนประวัติศาสตร์ประจำวิทยาลัย พูดเก่งแบบน้ำไหลไฟดับ (จ้าวแห่ง Speech)
 
Inge Six Fingers - ครูสอนลู้ท (Lute) ประจำวิทยาลัย มักพูดว่า ลู้ทนั้นต้องใช้เวลาฝึกตลอดชีวิตจึงจะเก่ง
 
Pantea Ateia - ครูในวิทยาลัย
 
Aria Arria - นักเรียนของวิทยาลัย
 
Ataf - นักเรียนของวิทยาลัย เป็นวณิพกที่อายุน้อยที่สุดในวิทยาลัย
 
Illdi - นักเรียนของวิทยาลัย มักบ่นว่าเข้ากับคนอื่นไม่ค่อยได้
 
Jorn - นักเรียนของวิทยาลัย
 
Bendt - พ่อครัวประจำวิทยาลัย
 
 
เควสหลัก : Tending the Flames

ให้ไปคุยกับ Viarmo เขาจะให้เราไปหา King Olaf's Verse ที่ Deadman's Respite (ไปถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก Giraud Gemane) พอเข้าไปในดันเจี้ยนก็จะเจอผีวณิพก เขาจะไม่พูดอะไร ให้หยิบ Ruby Dragon Claw จากบนโต๊ะในห้อง (พวก Draugr จะลุกมาจากหลุม จัดการซะ) แล้วตามผีไป ให้ไปตามทาง จะเจอทางตัน ตอนนี้ให้ดึงสวิทช์ติดโซ่ทางขวา แล้วกำแพงจะหมุนเอาช่องมาให้เราเดินผ่านได้ จะเห็นว่าผีวณิพกรอเราอยู่ แต่พอเราเดินเข้าไปในห้องที่ผีอยู่ก็จะได้ยินเสียง Draugr ลุกจากหลุม แต่ศัตรูตรงนี้เป็นแมงมุม 1 ฝูง ให้จัดการให้หมด แล้วไปต่อ จะเจอกำแพงตัน ให้ดึงสวิทช์ทางขวา แล้วกำแพงจะหมุนให้เราเข้าไปในห้องที่มี Draugr ได้ ให้จัดการซะ (ห้องนี้จะมีหนังสือ The Buying Game ซึ่ง +1 Speech Skill อยู่) แล้วไปตามทาง เดินลงบันไดไป จะออกมาที่ห้องใหญ่ซึ่งมีแมงมุมยักษ์ 2 ตัว จัดการซะ แล้วดึุงสวิทช์ทางขวาของห้อง แล้วโดดบ่อ เพื่อไปต่อ

โดดลงมาแล้วให้ไปต่อตามทาง พอออกมาที่โถงจะเจอ Draugr อีกฝูงนึง จัดการให้หมด แล้วเดินขึ้นบันไดไป เราจะไปโผล่ตรงทางเดินข้างบนที่มีลูกกรงอยู่ พอเปิดประตูลูกกรง กับดักใบมีดจะทำงาน ตรงนี้แนะนำให้ใช้ Whirlwind Sprint พุ่งผ่านไป เพราะถ้าเราโดนกับดักนี่เราจะถูกผลักหล่นลงไปข้างล่าง ต้องเดินขึ้นมาใหม่ พอข้ามไปได้ ดึงสวิทช์ตรงหน้าให้กับดักหยุดทำงาน แล้วเดินขึ้นไปต่อตามทาง แล้วจะเจอประตูที่โดนผนึก ให้เราเดินไปทางขวาแทน ไปตามทาง จะเจอห้องที่มีลูกกรงบนพื้นกับสวิทช์ทางขวา ให้จัดการศัตรูให้หมด ดึงสวิทช์แล้วลงบันไดไปต่อ พอเจอทางตัน ให้ดึงสวิทช์ทางซ้าย จะเจอผีวณิพกนั่งอยู่ข้างศพตัวเอง (ผีเฮี้ยนนี่หว่า!?) ให้หยิบกระดาษในมือศพ แล้วเราจะได้ King Olaf's Verse มา ตอนนี้ให้เดินตามผีย้อนทางไป จะพบว่าผีวณิพกเปิดประตูที่โดนผนึกเมื่อครู่ให้ ซึ่งประตูต่อไปจะเป็นประตูที่ต้องใช้ Ruby Dragon Claw เปิด (จากวงนอกเข้าใน หมาป่า - นกอินทรี - หมาป่า) เปิดเข้าไป ไปตามทางจะเจอผีวณิพก ยืนฟังมันท้าสักแป๊บ แล้วเราจะต้องสู้กับ Draugr ฝูงยักษ์ พร้อมตัว King Olaf One-Eyed เองด้วย โดยโลงของ King Olaf จะอยู่หน้ากำแพงที่เราเรียน Shout "Whirlwind Sprint" พอจัดการทั้งฝูง สำรวจศพ Olaf หยิบ Olaf's Treasury Key เปิดประตูออกทางลัด แล้วกลับไปที่วิทยาลัย

กลับไปถึงจะเจอปัญหาต่อ คือ เนื้อเพลงดูไม่จืด ถอดความไม่ได้ เราเลยต้องมานั่งเมคเนื้อใหม่ ให้คุยกับ Viarmo เมคเนื้อยังไงก็ได้ (จะบ้า ไร้เหตุผล งี่เง่า ยังไงก็ได้) เสร็จแล้วตาม Viarmo ไปที่วัง ให้คุยกับ Viarmo หลังจากเขาเดินไปยืนทางขวา แล้วเลือก "Are we ready?" จากนั้นเดินตามขึ้นไปข้างบน ยืนดูเหตุการณ์สักพัก จน Viarmo หันมาคุยกับเรา แล้วเขาจะใช้เราให้ไปคุยกับ Jorn ให้ไปคุยกับ Jorn ถ้ายังเป็นกลางวันเขาจะบอกให้เรามาคุยกับเขาอีกทีตอนกลางคืน หลังจากกลางคืน ให้เดินไปที่ลานหลังวิทยาลัย รอสักพัก Viarmo จะเดินมาพร้อมคบเพลิง ยืนดูเหตุการณ์สักพัก แล้ว Viarmo จะคุยกับเราอีกรอบ แล้วเราจะได้เป็นวณิพกเต็มตัว (ในนาม) และได้เงินตอบแทนมา

 
 
เควสย่อย (บอกว่าเป็น Side Quest คงได้ แต่ว่ามันขึ้นเป็น Misc. หมดเลย)
 
Rjorn's Drum

หลังจบเควส Tending the Flames ให้ไปคุยกับ Giraud Gemane เขาจะพูดถึง Rjorn ซึ่งเป็นวณิพกรักการผจญภัย แต่ดันไปตายที่ไหนไม่รู้ เลยไม่รู้ว่าเครื่องดนตรีไปอยู่ไหน แล้วเขาจะส่งเราไปที่ Halldir's Cairn ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง Falkreath พอเข้าไปแล้วให้ไปตามทาง จะเจอหนังสือกับกุญแจวางอยู่บนแท่น ให้เก็บกุญแจแล้วไขประตูข้างๆเข้าไป แล้วไปตามทาง จะเจอศัตรูเป็นผี จัดการซะ แล้วไปต่อเรื่อยๆ จะเจอทางตันที่มีเก้าอี้อยู่ ให้สำรวจสวิทช์หลังเก้าอี้ แล้วทางไปต่อจะเปิด แล้วจะเจอพัซเซิลเสาหมุน ให้หมุนเสาให้ตรงกับภาพที่อยู่บนผนัง จะมีงู , ปลาวาฬ, แล้วก็ นกอินทรี แล้วสับสวิทช์เพื่อเปิดทางไปต่อ  (ในห้องนี้จะมีประตูอยู่ ไขเปิดจะเจอหีบ) พอไปตามทางจะเจอบันไดเดินขึ้น ให้เตรียมตัวสู้กับบอสที่จะอยู่ในห้องกว้างห้องต่อไป ระวังด้วยเพราะบอสเป็นบอสยิงเวทย์ และแยกร่างได้ ให้จัดการบอสให้เรียบร้อย เดินไปเปิดหีบหยิบกลอง แล้วอย่าลืมหยิบ Halldir's Staff มาด้วย หลังจากนั้นกดสำรวจลูกกรงที่พื้นแล้วโดดลงไปดีๆ ออกจากดันเจี้ยนแล้วกลับไปหา Giraud คุยเสร็จแล้วเขาจะให้รางวัลคือ +1 สกิลสายต่อสู้ทุกสกิล

 
 
Finn's Lute

หลังจบเควส Tending the Flames ให้ไปคุยกับ Inge Six Fingers เขาจะพูดถึงลู้ทของ Finn ซึ่งถูกขโมยไปตอนมีโจรย่องเข้ามางัดครั้งก่อน แล้วเขาจะให้เราไปที่ Stony Creek Cave ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของ Windhelm และ ตะวันตกเหนือของเมือง Riften ติดกับแนวภูเขา พอเข้าถ้ำไปก็ลุยไปตามทางเลย ทางแทบจะตรงแน่ว พอจัดการ Bandit Leader ให้ค้นศพมัน จะเจอ Treasure Map X หลังจากนั้นเก็บหินที่อยู่ในห้องเดียวกัน เปิดหีบหยิบลู้ท แล้วกลับไปหา Inge เขาจะให้รางวัลมาคือ +1 สกิลสายโจรทุกสกิล

 
 
Pantea's Flute

หลังจบเควส Tending the Flames ให้ไปคุยกับ Pantea Ateia พูดถึงขลุ่ยของเขาที่โดนขโมยไป แล้วเขาจะให้เราไปที่ Hob's Fall Cave ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมือง Dawnstar ใกล้ๆกับประภาคาร Frostflow Lighthouse พอเราไปถึงแล้วเข้าไปข้างในจะพบศัตรูเป็น Necromancer เต็มไปหมด ให้ลุยดันเจี้ยนไป มองระหว่างทางด้วย จะมีห้องนอนที่มี แท่นผสมยา Alchemy Lab จะมี 1 ใน 24 หินเจ้าปัญหาของเควส No Stone Unturned อยู่ พร้อมหนังสือ The Exodus ซึ่ง +1 สกิลเวทย์สาย Restorationl (ห้องนี้จะไปได้ง่ายมาก ถ้าเดินอยู่บนสะพานแล้วหมุนกล้องดู จะมองเห็นเตียงนอนเรียงๆกัน ให้โดดลงสะพานลงไปเลย) หลังจากนั้นลุยไปตามทาง ตรง ใกล้ๆแท่น Arcane Enchanter จะมีหนังสือ Enchanter's Primer ซึ่ง +1 สกิล Enchanting อยู่ด้วย ลุยไปจนถึงห้องสุดท้าย เปิดหีบจะเจอ Pantea's Flute หลังจากนั้นกลับไปหา Pantea เขาจะให้รางวัลเรามา คือ +1 สกิลสายเวทย์ทุกสกิล

 
 
** อนึ่ง ตอนนี้มีบั๊กเครื่องดนตรีไม่ยอมหาย แม้ส่งเควสเสร็จแล้วอยู่ ใครเล่น PS3 กะ XBOX 360 ทนหนักต่อไป แต่ PC สามารถเอาเครื่องดนตรีออกได้ด้วยคอนโซลค่ะ

player.removeitem (id) 1

ไอดีของเครื่องดนตรีก็ตามนี้ค่ะ
 
Pantea's Flute= DABA7
Rjorn's Drum = DABA9
Finn's Lute= DABAB
 
 
 
Faction วิทยาลัยวณิพก ไม่มีเควสงานนะคะ แทบจะพูดได้ว่าเควสสั้นสุดขั้ว แต่อาจจะโดนอุบอิบไว้ทำเป็นแพทช์เสริมก็ได้ ใครจะไปรู้...
 
 
 
เนื้อเพลงต่างๆของวณิพกในสกายริม
 

The Dragon Born Comes

Our hero, our hero...claims a warrior's heart.

I tell you, I tell you, the Dragonborn comes.

With a voice wielding power of the ancient Nord art.

Believe, believe, the Dragonborn comes.

It's an end to the evil, of all Skyrim's foes.

Beware, beware, the Dragonborn comes.

For the darkness has passed, and the legend yet grows.

You'll know, you'll know, the Dragonborn comes.

 
 

Age of Aggression (Imperial Legions เท่านั้น)

We drink to our youth, to days come and gone.

For the age of aggression is just about done.

We'll drive out the Stormcloaks and restore what we own.

With our blood and our steel we'll take back our home.

Down with Ulfric the killer of kings.

On the day of your death we'll drink and we'll sing.

We're the children of Skyrim, and we fight all our lives.

And when Sovngarde beckons, everyone of us dies.

But this land is ours and we'll see it wipe clean.

Of the scourge that sullied our hopes and our dreams.

 
 

Age of Oppression (Stormcloaks เท่านั้น)

We drink to our youth, and to days come and gone.

For the age of oppression is now nearly done.

We'll drive out the Empire from this land that we own.

With our blood and our steel we'll take back our home.

All hail to Ulfric! You are the high king!

In your great honor we drink and we sing.

We're the children of Skyrim, and we fight all our lives.

And when Sovngarde beckons, everyone of us dies.

But this land is ours and we'll see it wipe clean.

Of the scourge that sullied our hopes and our dreams.

All hail to Ulfric! You are the high king!

In your great honor we drink and we sing.

 
 

Ragnar the Red

(Oh) There once was a hero named Ragnar the Red,

who came riding to Whiterun from ole Rorikstead!

And the braggart did swagger and brandish his blade,

as he told of bold battles and gold he had made!

But then he went quiet, did Ragnar the Red,

when he met the shieldmaiden Matilda who said...

Oh, you talk and you lie and you drank all our mead!

Now I think it's high time that you lie down and bleed!

And so then came the clashing and slashing of steel,

as the brave lass Matilda charge in full of zeal!

And the braggart named Ragnar was boastful no mooooooree...

when his ugly red head rolled around on the floor!

 
 
Tales of the Tongue

Alduin's wings, they did darken the sky.

His roar fury's fire, and his scales sharpen scythes.

Men ran and they cowered and they fought and they died.

They burned and they bled as they issued their cries.

We need saviors to free us from Alduin's rage.

Heroes on the field of this new war to wage.

And if Alduin wins, man is gone from this world.

Lost in the shadow of the black wings unfurled.

But then came the Tongues on that terrible day.

Steadfast as winter, they entered the fray.

And all heard the music of Alduin's doom.

The sweet song of Skyrim, sky-shattering Thu'um.

And so the Tongues freed us from Alduin's rage.

Gave the gift of the Voice, ushered in a new Age.

If Alduin's eternal, then eternity's done.

For this story is over, and the dragons are... gone.

 
 
 
 
เอนทรี่เรื่อง Faction: Bards College จบเพียงเท่านี้ พบกันใหม่เอนทรี่หน้านะคะ
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น