ขออภัยในความล่าช้า เนื่องจากเจ้าของบล็อกไม่ว่างนัก บทสรุปส่วนนี้เลยช้าตามไปด้วยเพราะทยอยทำไปเรื่อยๆ...
เควสสาย Dragonborn จะเป็นเนื้อเรื่องของ Dragonborn คนแรกสุด ซึ่ง... เอ่อ... เล่นเองละกัน
สำหรับเควสสายนี้ จำเป็นต้องทำเนื้อเรื่องหลักเลยเควส The Way of the Voice ไปแล้วนะคะ ถึงจะสามารถเริ่มได้....
Dragonborn
หลังผ่านเควส The Way of the Voice เราอาจจะเจอพวกบ้าลัทธิ 2 ตัวมาไล่ล่า (มันจะทักเองถ้าเดินสวน) ให้จัดการเชือดมันซะทั้งคู่ จากนั้นค้นหยิบกระดาษ Cultist's Order มาอ่านซะ เควสจะอัพเดทให้เราไปที่เรือลำนึงในเมือง Windhelm ให้ไปที่เมือง Windhelm ตรงท่าเรือ จะเจอเรือชื่อ Northern Maiden ให้เดินไปคุยกับ Gjalund Salt-Sage จากนั้นจะเงินฟาดหัว เกลี้ยกล่อม ขู่ ยังไงก็ได้ เขาจะพาเราไปที่เกาะ Solstheim
เราจะไปขึ้นฝั่งที่ Raven Rock ซึ่งเราจะเจอ Adril Arano เดินมาทัก ให้คุยแล้วถามเรื่อง Miraak แล้วถามเรื่องอื่นด้วย เขาจะพูดถึง Earth Stone ซึ่งอยู่ห่างจากที่เราอยู่ไปนิดเดียว ให้เดินทางไปที่นั่น พอไปแล้วเราจะเจอ Neloth มาคุยด้วย ให้ถามเรื่อง Miraak เหมือนเดิม เขาจะบอกให้เราไปที่ Temple of Miraak
ให้เดินทางไปที่ Temple of Miraak จะเจอคนโดนมนต์สะกดเพียบแถวนั้น ไม่ต้องสนใจเพราะพวกนี้จะไม่โจมตี (แต่ถ้าเดินไปเจอ Cultist มันจะมาตีเรา) ให้เดินเข้าไปแล้วเควสจะอัพเดทเริ่มเควสต่อไปเอง ด้วยการบอกให้เราคุยกับ Frea
The Temple of Miraak
เกมจะบอกให้เราคุยกับ Frea ที่เป็นคนเดียวที่ไม่โดนมนต์สะกดและพยายามเกลี้ยกล่อมชาวบ้านให้หลุดจากมนต์(แต่ไม่ได้ผล) อยู่ คุยกับเขา เขาจะขอให้เราช่วย แล้วจะตามเรามา ให้เดินลงไปเข้าไปในดันเจี้ยน ลุยดันเจี้ยนเข้าไปข้างใน ระวังกับดักด้วยมีอย่างเพียบ... มองรอบๆดีๆเพราะบางครั้งจะต้องดึงสวิทช์ประตูลับให้เปิดถึงจะไปต่อได้ พอไปถึงห้องในสุด เราจะเจอหนังสือสีดำ Black Book (จะมี Quest Marker ชี้ด้วยถ้าเปิดไว้) พอเปิดอ่านเราจะโดนส่งไปมิติของ Hermaeus Mora ให้เดินไปหา Miraak จะเจอคัทซีน แล้วเควสจะอัพเดทไปเควสต่อไป (หนังสือนี่เราจะได้มาด้วย จะเป็นหนังสือ Black Book: Waking Dreams)
The Fate of the Skaal
หลังเควสอัพเดท ให้เดินตาม Frea ออกจาก Temple of Miraak (ทางออกซ้าย) แล้วไปที่ Skaal Village พอไปถึงให้คุยกับ Stron Crag-Strider ซึ่งเป็นพ่อของ Frea เสร็จแล้วเขาจะบอกให้เราไปที่ Saering's Watch ก็ให้เดินทางไปที่นั่น
พอไปถึงจะเจอมังกรเฝ้ากำแพง (อาจพ่วงศัตรูอื่นด้วย) ฆ่าให้เรียบ แล้วเดินเข้าไป จัดการเรียน Shout "Bend Will" ให้เรียบร้อยจากนั้นเดินทางกลับไปที่ Skall Village แล้วไปทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน เราจะเจอ Wind Stone ให้ใช้ Bend Will ใส่หิน แล้วเราจะต้องสู้กับ Lurker ที่หลุดออกมา ให้จัดการซะ แล้วกลับไปคุยกับ Stron Crag-Strider เขาจะให้เควสชำระล้างหินอื่นๆมาด้วย (เควส Cleansing the Stones) พอคุยต่อ เราจะได้เควส The Path of Knowledge มาด้วย
Cleansing the Stones
เควสนี้ง่ายมาก... ให้เดินทางไปตามหิน Marker Stone ในพื้นที่ แล้วจัดการตะโกน Shout "Bend Will" ใส่ซะ แล้วสู้กับ Lurker ที่ออกมาจากหินเป็นอันจบ โดยเราต้องไปจัดการหินต่อไปนี้ (แนะนำว่าให้จัดการตามลำดับ เพราะ ในเกมจะอัพเดทเควสเป็นขั้นตอน หากข้ามแล้วอาจเสี่ยงบัคกระโดดข้ามขั้นและอาจส่งผลเสียทีหลังได้)
- Water Stone : อยู่ที่ทางตะวันตกของเกาะ (ไม่มีเมืองใกล้ๆ มีแต่ดันเจี้ยน วิ่งตาม Marker ง่ายกว่า)
- Earth Stone : อยู่ที่ทางตะวันตกของ Raven Rock ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ
- Beast Stone : อยู่ทีทางตะวันออกของ Temple of Miraak (กลางๆเกาะ)
- Sun Stone : อยู่ที่ทางทิศเหนือของ Tel Mithryn ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ
The Path of Knowledge
เกมจะบอกให้เราไปหา Neloth ซึ่งเขาจะอยู่ที่ Tel Mithryn ให้เราเดินทางไปที่นั่น (จะอยู่ทางใต้ของ Skaal Village) พอไปถึงให้คุยกับ Neloth แล้วเราจะต้องคุยกับเขาเรื่องหนังสือสีดำที่เราเจอก่อนนี้ คุยจบเราจะต้องไปที่ Nchardak กับ Neloth
ให้รอและตาม Neloth เรื่อยๆ เพราะเขาจะต้องเปิดทางให้เรา ตามเขาไปเรื่อยๆเข้าไปใน Great Chamber จนกระทั่งเขาวาง Control Cube ที่แท่น Control Pedestral ให้เราเก็บ Control Cube อันนั้นมา จากนั้นเดินไปรอคุยกับ Neloth ตามลูกศร เขาจะบอกให้เราเปิดประตูที่เข้าไปที่ Nchardak Workshop เอง (ซึ่งก็ใช้ Control Cube อันตะกี๊แหละ วางลงสวิทช์) ซึ่งเราจะต้องหา Control Cube 4 อันเพื่อเอามาเปิดทางต่อ ซึ่งก็ไม่ได้ยากอะไรนัก... เพราะกลไกก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ให้ดูสีของกลไก ถ้าที่ฐานเป็นสีแดง แปลว่าเป็นแค่สวิทช์เปิดปิดกลไกธรรมดา ไม่ต้องเสียบ Control Cube ค้างอะไร ถ้าเป็นสีฟ้าจะเป็นอันที่ต้องเสียบค้างไว้ ซึ่งเราต้องเสียบ Control Cube ลงฐานฟ้า 2 อัน เพื่อลดระดับน้ำไปหยิบอันที่ 3 จากนั้นเก็บ Control Cube ทั้งหมดเพื่อทำให้ระดับน้ำกลับมาสูงเพื่อว่ายข้ามไปเก็บอันที่ 4 จากนั้นเกมจะบังคับเราย้อนทางกลับไปเพื่อใส่ Control Cube ลงแท่นที่ Neloth อธิบายเราตอนแรกสุด 2 อัน แล้วระดับน้ำจะลดลงให้เราไปต่อได้ ให้ตาม Neloth ไปก่อน ปล่อย Control Cube ไว้ ไม่ต้องเก็บ จากนั้นตาม Neloth เข้า Nchardak Aquedauct ไป
สำหรับห้อง Aqueduct พอเข้ามาแล้ว ให้เดินขึ้นไปเหนือทางที่เราเข้ามา จะเจอสวิทช์แดง 3 อัน ให้สับให้สะพานทั้ง 3 อันลงหมด (สับขวาสุด ตามด้วยซ้ายสุด อันกลางไม่ต้องแตะ) จากนั้นวิ่งอ้อมห้องไปเสียบ Control Cube ที่แท่นเพื่อลดระดับน้ำลง แล้วลงไปสำรวจสวิทช์แดงข้างประตูแล้วไปต่อตามทาง จะเจอ Control Cube อันสุดท้ายอยู่ในห้องที่โดนขวางด้วยกับดักมีดใบพัด (ฝ่าไม่ยาก) ระวังตอนหยิบ Control Cube จะโดนลูกดอกพิษด้วย สวิทช์กับดักลูกดอกอยู่ที่พื้น พอหยิบแล้วก็จัดการไปหยิบ Control Cube ในห้องที่เราเสียบลดระดับน้ำตะกี๊ไว้ แล้วออกจาก Aqueduct กลับไปที่ Great Chamber ให้ดึง Control Cube อันซ้ายออกจากอันที่เราเสียบค้างไว้ซะ แล้วเดินลงไปเสียบที่ 4 แท่นข้างล่างที่เป็น Boiler Control Pedestral ให้เรียบร้อย ทางไปต่อจะเปิดพร้อม Dwarven Centurion ตัวเบิ้มเดินมาหาเราด้วย 1 ตัว จัดการซะ แล้วข้ามไปเก็บหีบให้เรียบร้อย แล้วย้อนทางกลับไปที่ Reading Room กดสวิทช์สุดท้าย แล้วกลไกจะทำงาน แล้วเราจะเจอ หนังสือ Black Book อีกเล่มแล้วจะจบเควส เริ่มเควสต่อไป
The Gardener of Men
ให้หยิบหนังสือดำมาอ่านตามเควสสั่ง เราจะได้หนังสือ Black Book: Epistolary Acumen มา แล้วเราก็จะโดนวาร์ปเข้ามาในโลกก่อนนี้อีกรอบ แต่รอบนี้เราจะเจอ Hermaeus Mora มาหาเอง แล้วเราจะรู้ว่าโลกที่เราหลุดเข้ามาคือ Apocrypha (นรกส่วนตัวของ Hermaeus Mora ) จากนั้น Hermaeus Mora จะบอกว่าหนังสือเล่มนี้ถ้าเปิดอ่านเราจะกลับไปโลกปกติได้ และถ้าอยากกลับมาก็เปิดอ่านอีกรอบ (สำหรับคนจำเป็นต้องเตรียมตัว)
ถ้าพร้อมแล้วให้กดสำรวจ Scrye ตรงหน้า แล้วสะพานจะลงมา ให้วิ่งไปรอ กะจังหวะดีๆ โดดข้ามไปส่วนต่อไป วิ่งไปให้สุดอุโมงค์แล้วรอจังหวะโดดดีๆอีกรอบ (ถ้าโดดไม่ทันแล้วต้องยืนรอให้เตรียมหลบหนวดตัวดีที่มาฟาดด้วย มันแถมโรคภัยไข้เจ็บมาให้) สำรวจ Scrye อีกอันซะเพื่อเปิดทางไปต่อ (จะเห็นว่าสะพานลงมาอันนึง) ให้เดินย้อนกลับเข้าอุโมงค์ไป รอมันหมุนไปหาสะพานที่เพิ่งลงมาเมื่อครู่แล้วเดินไปต่อ จะเจอหนังสือ Chapter II กางอยู่ให้สำรวจซะ เพื่อไปต่ิอ
เราจะถูกวาร์ปมาที่ทางเดินที่มีกระดาษปลิวเต็มไปหมด ให้วิ่งไปให้สุดทาง กดสำรวจ Scrye ซะ แล้วทางเดินจะคลี่ออกเป็นเวทีให้เราโชว์ละเลงเลือด เอ๊ย ต่อสู้กับศัตรูในห้อง ให้จัดการให้หมด สำรวจ Scrye อีกอันทางซ้ายของห้องซะ ประตูฝั่งตรงข้ามจะเปิด เดินเข้าไปจะเจอหนังสือ Chapter III ให้สำรวจให้ไปต่อได้
เราจะถูกวาร์ปมาในห้องที่เหมือนโถงทางเดินขนาดใหญ่ ให้จัดการ Seeker ระหว่างทางให้เรียบ แล้วไปต่อ จะเจอทางเดินหมุนได้อีกรอบ ให้เดินไปจนสุดทางเดินหมุนได้ จะเจอ Scrye ให้สำรวจ จัดการสำรวจซะ แล้วไปตามทางหลังประตู เชือดศัตรูระหว่างทาง แล้วพอไปสุดทางเดิน รอสักพัก จะเจอสะพานทอดลงมาพร้อม Lurker มารอต้อนรับ จัดการซะแล้วไปต่อ ทางเดินจะหมุนให้เราไปเจอ Scrye อีกอัน ให้สำรวจซะแล้วไปตามทาง จะเจอบ่อตรงกลาง (ระวังหนวดโผล่มาฟาด) ไปต่อซะ จัดการศัตรูระหว่างทางแล้วไปตามทางจะเจอหนังสือ Chapter IV ให้สำรวจให้ไปต่อ
หลังจากถูกวาร์ป ให้สำรวจ Scrye ตรงหน้า แล้วทางจะเชื่อมต่อให้เราไปถึงหนังสือ Black Book: Epislatory Acumen ได้ ให้กดสำรวจซะ... Hermaeus Mora จะโผล่มาคุยกับเรา พร้อมสอนคำที่สองของ Shout "Bend Will" ให้ และจะยื่นเงื่อนไขเควสต่อไปให้เราด้วย หลังจากคุยเสร็จ จะมีไฟเขียว 3 ดวงลุกบนหนังสือ ซึ่งเราจะเลือกรับได้คล้ายๆพรของ Paarthurnax คือ รับได้อันใดอันหนึ่ง ถ้าอยากเปลี่ยนก็ต้องมาที่นี่อีกครั้งเพื่อเปลี่ยน
- Dragonborn Force: ทำให้ Shout "Unrelenting Force" เดเมจรุนแรงขึ้น และอาจถึงขนาดฉีกร่างศัตรูได้ หากตะโกน 3 คำรวด
- Dragonborn Flame: ทำให้ถ้าใช้ Shout "Fire Breath" ฆ่าศัตรู จะมีมังกรไฟออกมาจากศพแล้วช่วยเราสู้ด้วยเป็นเวลา 1 นาที
- Dragonborn Frost: ทำให้ถ้าใช้ Shout "Frost Breath" จะทำให้ศัตรูถูกขังในน้ำแข็ง
หลังเลือกเรียบร้อยแล้วก็กดสำรวจหนังสือตรงหน้าเพื่อออกมา Neloth จะมาคุยกับเราอีกรอบ คุยให้เรียบร้อยจากนั้นก็ออกจากดันเจี้ยน จะพบว่าฝันร้ายมาเยือน เพราะมีมังกรมาดักฆ่าเราอยู่หน้าทางออกดันเจี้ยนตัวนึง (Krosulhah) จัดการเชือดซะ แล้วไปหา Storn Crag-Strider ตามที่ Hermaeus Mora สั่ง พอไปหา คุยเสร็จจะเจอฉากดราม่า (ส่วนตัวคิดว่าดราม่า... ไม่ก็เพราะอินเกิน) แล้ว Hermaeus Mora จะให้คำสุดท้ายของ Bend Will มาพร้อมๆกับจบเควส
At the Summit of Apocrypha
เปิดฉาก เควสจะสั่งให้เรา Unlock พลัง Shout "Bend Will" ให้เรียบร้อย ให้จัดการซะ จากนั้นเตรียมตัวให้เรียบร้อย เมื่อพร้อมก็เปิดหนังสือ Black Book: Waking Dreams อ่านได้เลย
เข้ามาแล้วจะเดินไปเช็คโต๊ะด้านหลังเราเผื่อเจอหนังสือน่าสนก่อนก็ได้ เสร็จแล้วเดินขึ้นบันไดไปตามทาง สำรวจหนังสือ Chapter II ที่หงายอยู่ได้เลยเพื่อไปต่อ
พอวาร์ปเข้ามา อย่าเพิ่งเดินไปหาทางที่ Quest Marker ชี้ ให้เดินขึ้นไปอีกทางก่อน หยิบหนังสือ Boneless Limbs ที่วางเด่นเป็นสง่าผิดที่ผิดทางกับเล่มอื่นๆมาก่อน จากนั้นค่อยไปตามทางสำรวจหนังสือ Chapter III เพื่อไปต่อ
เราจะถูกวาร์ปมาต่อในทางเดินแคบๆ ให้เดินเข้ามาตามทาง ขึ้นไปหยิบหนังสือ Delving Pincers ข้างบน จากนั้นย้อนกลับมาหาทางที่เรามาจาก Chapter II ตะกี๊ จะเห็นว่าประตูทางซ้ายเปิดให้เราเข้าไปสำรวจ Scyre ได้แล้ว ให้สำรวจ ทางเดินจะเปลี่ยนรูปร่าง ให้เดินตามไป มองทางซ้ายจะเห็น Scrye อีกอัน ให้สำรวจซะประตูใกล้ๆจะเปิดให้เราไปหยิบของในหีบได้ หยิบเรียบร้อยก็เดินอ้อมห้องไปหยิบหนังสือ Prying Orbs บนแท่นซะ แล้วประตูทางไปต่อจะเปิด ให้เราเข้าไปสำรวจหนังสือ Chapter IV เพื่อไปต่อได้
เข้ามาแล้ว อย่าลืมขึ้นบันไดไปหยิบหนังสือ Gnashing Blades ให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปทางขวาเพื่อไปต่อได้ ไปตามทางเรื่อยๆ (มีทางแยกนิดหน่อย แต่หลงยาก) แล้วขึ้นไปสำรวจ Scrye อีกอัน เพื่อเปิดทางไปต่อ (ทางเปิดตรงหน้าเลย) ไปต่อตามทางใหม่ พอสุดทางจะเจอห้องที่มีบ่อน้ำตรงกลาง รอสักพักจะมี Lurker ระดับบอสโผล่มา ให้จัดการซะ แล้วสำรวจ Scrye อีกอันในห้อง แล้ววิ่งเข้าทางขนานไปจะเจอหีบอยู่ที่สุดทางกับ Scrye อีกอันอยู่ทางขวา ให้จัดการเก็บของเช็คโต๊ะทางซ้ายด้วยจะมีหนังสือ Conjure Seeker อยู่ แล้วก็สำรวจ Scrye ซะ แล้วเดินย้อนไปขึ้นบันไดไปต่อ จะเจอหนังสือ Chapter V ให้สำรวจและไปต่อได้
ในด่านนี้ เราจะต้องเอาหนังสือที่หยิบมาก่อนหน้านี้ (Boneless Limbs, Delving Pincers, Prying Orbs, Gnashing Blades) ไปวางบนแท่นให้ถูกต้อง โดยต้องวางดังนี้
แท่นรูปเขี้ยว : Gnashing Blades
แท่นรูปก้ามปู 2 ก้าม: Delving Pincers
แท่นรูปหนวดปลาหมึก : Boneless Limbs
แท่นรูปตา: Prying Orbs
หลังจากวางถูกตำแหน่งเรียบร้อย หนังสือกลางห้องจะเปิดให้เราสำรวจไปที่ Chapter VI
ให้เดินมาตามทาง จะเจอพื้นที่ที่ดูปุ๊บก็รู้ว่าเป็นลานต่อสู้ สุดลานจะมี Seeker x2 กับกำแพง Word Wall ให้ฆ่า Seeker ซะให้เรียบ แล้วเดินไปเรียน Shout "Dragon Aspect" ซะ จากนั้นเราจะเจอมังกร Sarotaar พุ่งมาโจมตี ซึ่งเกมจะสั่งให้เราจัดการทำให้ Sarotaar เชื่อฟัง ซึ่งก็ง่ายมาก ตะโกน Bend Will ให้ครบ 3 คำ และ เข้าเป้าทีเดียวก็อยู่แล้ว พอตะโกนใส่เรียบร้อย Sarotaar จะมาลงจอดข้างๆ บอกให้เราขึ้นขี่ ก็จัดการขี่ซะ แล้วเขาจะพาเราบิน
ตอนนี้เกมจะสอนเราขี่มังกร ว่าใช้อะไรล็อคเป้าศัตรู (เราโจมตีสนับสนุนมังกรได้ด้วย แต่ต้องใช้เวทย์เท่านั้น) จากนั้นพอเกมบอกให้เรากดหาที่ลงจอด Sarotaar จะเอาเราไปส่งที่เกาะที่ Miraak อยู่
หลังจากฟัง Miraak พล่าม ได้เวลาสู้สักที Miraak เป็นตัวละครแบบนักเวทย์ ฉลาดและพลิ้วน่าดูชม เดินไปมาเรื่อยๆ ให้โจมตีไปเรื่อยๆ พอ Miraak ใกล้ตาย มันจะใช้พลังเร่งความเร็วหายวูบไปจากสายตาแล้วไปโผล่ที่กลางฉากในร่างใสๆ ตอนนี้ Miraak จะตะโกนสั่งมังกรของตัวเอง จากนั้นก็สังเวยมังกร ดูดวิญญาณมาฟื้น HP ตัวเอง โดยตอนที่ตะโกนสั่งแล้วสังเวย อย่าไปขวาง (ถ้าไม่อยากบัคกิน) ให้รอจนสังเวยเสร็จก่อนค่อยตีต่อ (จะสังเวย Kruziikrel >> Relonikiv >> Sarotaar ตามลำดับ)
หลังจากอัดจนมันใกล้ตายรอบสุดท้าย จะสังเกตว่า Miraak หายไปนานกว่าปกติ แล้วจะมีเหตุการณ์ให้ดู ให้ดูจนจบซะ แล้วเดินไปเปิดหนังสือ Waking Dreams จะมีสัญลักษณ์สกิลกระจายออกมา ในตอนนี้เราจะสามารถใช้ Dragon Soul 1 ดวง ล้าง Perk ทั้งหมดของสายนั้นๆแล้วเอาแต้มคืนมาอัพได้แล้ว โดยจะล้างสายไหนก็เดินไปสำรวจสัญลักษณ์ของสายนั้นเอาเอง
เป็นอันปิดม่านเนื้อเรื่องของ Dragonborn นะคะ...
หลังจากนี้จะมีแพทช์หรือไม่รอดูว่า Bathesda จะว่ายังไง เพราะขนาด Fallout ยังมี Expansion 5-6 อันได้... ค่ายเดียวกันอาจได้อานิสงส์ก็เป็นได้...
ข้อมูลอื่นๆของแพทช์นี้รอสักพักนะคะ เวลาเราน้อยลงไปเยอะเทียบกับตอนทำบทสรุปแรกๆ คงต้องล่าช้าสักหน่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น